Apple เปิดตัว iPhone 13 ใหม่ เตรียมขายในไทย 8 ตุลานี้ พร้อมสเปก Apple Watch Series 7, iPad miniใหม่ และ iPad รุ่นที่ 9

Apple ได้จัดงานอีเวนท์ California Streaming งานใหญ่แนะนำผลิตภัณฑ์ใหม่ที่หลายๆ คนรอคอยกันซึ่งในปีนี้ยังคงเป็นการเปิดตัวในรูปแบบออนไลน์อันเนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาด ประเดิมด้วย

iPhone 13 Pro และ iPhone 13 Pro Max

ถูกออกแบบใหม่หมดทั้งภายในและภายนอก ขนาดจอ 6.1 นิ้วและ 6.7 นิ้ว ใช้ชิป A15 Bionic  ใช้เทคโนโลยี 5 นาโนเมตร ที่ระบุว่าเร็วที่สุดในบรรดาสมาร์ทโฟน มาพร้อม GPU แบบ 5-core ใหม่ใช้งานกราฟฟิกเร็วเพิ่มขึ้นสูงสุด 50% สำหรับ CPU แบบ 6-core ประมวลผลเร็วขึ้นสูงสุด 50% 

สำหรับจอ  Super Retina XDR เป็นจอ Promotion ที่รองรับการแสดงผลเฟรมเรต Adaptive  ตั้งแต่ 10Hz ถึง 120Hz เพื่อประสบการณ์ในการสัมผัสที่รวดเร็วและตอบสนองทันใจยิ่งขึ้น

ระบบกล้องเซ็นเซอร์และเลนส์ใหม่ กล้องหลัง 3 ตัว  กล้องอัลตร้าไวด์ ไวด์ และเทเลโฟโต้ใหม่ เมื่อผนวกกับชิป A15 Bionic ช่วยให้กล้องมีความสามารถใหม่ๆ

กล้องไวด์เซ็นเซอร์ขนาด 1.9 µm เมื่อรูรับแสงขนาด ƒ/1.5 สามารถ ถ่ายภาพในสภาวะแสงน้อยได้ดีกว่าเดิมสูงสุด 2,2 เท่าเมื่อเทียบกับ iPhone 12 Pro และเกือบ 1.5 เท่าเมื่อเทียบกับ iPhone 12 Pro Max 

ส่วนกล้องอัลตร้าไวด์ใหม่มาพร้อมรูรับแสงขนาด ƒ/1.8 ที่กว้างยิ่งกว่าเดิมมาก พร้อมด้วยระบบออโต้โฟกัสใหม่ที่มีประสิทธิภาพในสภาวะแสงน้อยดียิ่งขึ้นถึง 92% รวมทั้งการถ่ายภาพมาโครที่ขยายภาพวัตถุนั้นด้วยระยะโฟกัสที่ใกล้สุดเพียง 2 เซ็นติเมตร

สำหรับกล้องเทเลโฟโต้ ขนาด 77 มม. ใหม่ที่ให้ผู้ใช้เข้าใกล้สิ่งที่ต้องการถ่ายได้มากขึ้นขณะบันทึกวิดีโอ และสามารถจัดเฟรมภาพถ่ายบุคคลแบบคลาสสิกได้ดียิ่งขึ้นโดยอาศัยช่วงซูมแบบออปติคัล 3 เท่า ซึ่งเมื่อรวมทั้งระบบกล้องแล้วทำให้มีช่วงซูมแบบออปติคัลถึง 6 เท่า

ด้านความสามารถของการถ่ายวีดิโอของ iPhone 13 Pro และ iPhone 13 Pro Max  โหมด Cinematic สามารถถ่ายวิดีโอคน สัตว์เลี้ยง สิ่งของวัตถุต่างๆ เลือกความชัดลึก และโบเก้ เปลี่ยนโฟกัสได้โดยอัตโนมัติ รวมทั้งการถ่ายในแบบ Dolby Vision HDR 

ด้านแบตเตอรี่ iPhone 13 Pro จะใช้งานในหนึ่งวันได้นานกว่า iPhone 12 Pro ถึง 1.5 ชั่วโมง ส่วน iPhone 13 Pro Max จะใช้งานในหนึ่งวันได้นานกว่า iPhone 12 Pro Max ถึง 2.5 ชั่วโมง

สำหรับ iOS 15 ระบบปฏิบัติการใหม่ล่าสุดซึ่งจะเปิดให้อัพเดตเร็วๆ นี้ จะช่วยให้ iPhone มีคุณสมบัติใหม่ๆ ยกระดับประสบการณ์ใช้งานมากมาย

จะมีจำหน่ายใน 4 สีสันสวยงาม ได้แก่ สีกราไฟต์, ทอง, เงิน และเซียร์ร่าบลูใหม่ในความจุ 128 GB, 256 GB, 512 GB และ 1 TB ซึ่งมีให้เลือกเป็นครั้งแรก โดยในประเทศไทย เปิดให้จองวันที่ 1 ตุลาคม เริ่มวางจำหน่ายวันที่ 8 ตุลาคมที่จะถึงนี้

iPhone 13 mini และ iPhone 13  

ออกแบบใหม่ด้วยดีไซน์เพรียวบางและทนทานกล้องหลังคู่ถูกออกแบบแนวทะแยง กล้องไวด์ใหม่พร้อมพิกเซลที่ใหญ่ขึ้นและระบบป้องกันภาพสั่นไหวแบบออปติคัล (OIS) ที่ใช้การปรับตำแหน่งเซ็นเซอร์ เพื่อการถ่ายภาพและวิดีโอในสภาวะแสงน้อยที่ดียิ่งขึ้น ชิป A15 Bionic  แบตเตอรี่ที่ใช้งานได้นานขึ้น, จอภาพ Super Retina XDR รองรับ 5G 

มี 5 สีสันใหม่ให้เลือก ในสีชมพู, น้ำเงิน, มิดไนท์, สตาร์ไลท์ และรุ่น (PRODUCT) RED

  • iPhone 13 mini ขนาดจอ 5.4 นิ้ว เริ่มต้นที่ 25,900 บาท
  • iPhone 13  ขนาดจอ 6.1 นิ้ว เริ่มต้นที่ 29,900 บาท
  • iPhone 13 Pro  ขนาดจอ 6.1 นิ้ว เริ่มต้นที่ 38,900 บาท
  • iPhone 13 Pro Max ขนาดจอ 6.7 นิ้ว เริ่มต้นที่ 42,900 บาท

Apple Watch Series 7

สำหรับ Apple Watch Series 7 ใหม่มาพร้อมกับดีไซน์สวยงาม หน้าปัดใหญ่ขึ้น มีความทนทานมากขี้น ชาร์จเร็วขึ้น มีตัวเรือนอะลูมีเนียมเรือน 2 ขนาดคือขนาด 41 มม. และ 45 มม. ในสีสันใหม่ พร้อมกับระบบปฏิบัติการ wachOS8

หน้าปัด Retina แบบแสดงผลตลอดเวลา พื้นที่จอเพิ่มขึ้นเกือบ 20% และขอบจอแคบลงเหลือเพียง 1.7 มม. เล็กกว่ารุ่นก่อนหน้าถึง 40% สามารถขยายจอภาพออกไปสุดพื้นที่ ดีไซน์ใหม่ด้วยมุมหน้าปัดที่โค้งมนกว่าเดิมจอภาพก็มาพร้อมขอบแบบหักเหแสงอันเป็นเอกลักษณ์ ซึ่งทำให้หน้าปัดนาฬิกาและแอปแบบเต็มหน้าจอดูกลมกลืนเป็นหนึ่งเดียวกับส่วนโค้งของตัวเรือน   พร้อมกับหน้าปัดแบบ Contour และ Modular Duo ออกแบบมาสำหรับอุปกรณ์ใหม่นี้โดยเฉพาะ  

แอปเปิลระบุด้วยว่าเป็น Apple Watch ที่ทนทานที่สุดที่เคยมีมา ด้านหน้าแบบคริสตัลที่แข็งแกร่งขึ้นและทนการแตกร้าวได้ดีกว่าเดิม และเป็น Apple Watch เรือนแรกที่ผ่านการรับรองความสามารถในการทนฝุ่นที่ระดับ IP6X ขณะที่ยังคงรักษาความสามารถในการทนน้ำไว้ที่ระดับ WR502

จอภาพจะได้รับการปรับปรุงประสิทธิภาพมากมาย แต่ผู้ใช้จะยังคงได้รับประโยชน์จากการใช้งานแบตเตอรี่ที่นานถึง 18 ชั่วโมงเช่นเดิม แถมตอนนี้ยังเสริมด้วยการชาร์จที่เร็วขึ้นถึง 33% ด้วย

สำหรับการดูแลสุขภาพที่มาพร้อมกัยเซ็นเซอร์วัดหัวใจแบบไฟฟ้าและแอป ECG3 พร้อมทั้งเซ็นเซอร์และแอปวัดระดับออกซิเจนในเลือด4 ส่วน watchOS 8 กับคุณสมบ้ติใหม่ๆ เช่น อัพเดตแอปปั่นจักรยานจะใช้อัลกอริทึมขั้นสูงในการวิเคราะห์ข้อมูลจาก GPS, อัตราการเต้นของหัวใจ, อุปกรณ์ตรวจจับการเคลื่อนไหวและไจโรสโคปเพื่อตรวจจับเมื่อผู้ใช้เริ่มปั่นจักรยาน และแจ้งให้พวกเขาเริ่มต้นการออกกำลังกายด้วยการปั่นจักรยานกลางแจ้ง 

ช่วยต่อติดกับทุกเรื่องอยู่เสมอด้วยประเภทการออกกำลังกายใหม่ๆ แอปทำสมาธิใหม่ คุณสมบัติการช่วยการเข้าถึงสุดล้ำ การเข้าออกสถานที่และใช้บริการต่างๆ ได้ดียิ่งขึ้นด้วยแอปกระเป๋าสตางค์ของ Apple และความสามารถอีกมากมายของแอปบ้าน พร้อมด้วยการปรับปรุงแอปข้อความและแอปรูปภาพให้ดียิ่งขึ้น

Apple Watch Series 7 มาพร้อมตัวเรือนอะลูมิเนียมใน 5 สีใหม่ที่สวยงาม ได้แก่ สีมิดไนท์ สีสตาร์ไลท์ สีเขียว สีน้ำเงินใหม่ และรุ่น (PRODUCT)RED พร้อมด้วยสายในสีสันและสไตล์ใหม่ๆ Apple Watch Series 7 ทุกรุ่นจะวางจำหน่ายภายในปีนี้ 

iPad mini 6 

สำหรับ iPad mini 6  ดีไซน์ใหม่จอ Liquid Retina ใหญ่ขึ้นขนาด 8.3 นิ้ว ขอบจอที่เล็กลง ดีไซน์พกพาสะดวก ใช้ชิป A15  Bionic แบบใหม่ล่าสุด ใช้งานซีพียูเร็วกว่ารุ่นก่อนถึง 40% และกราฟฟิกเร็วกว่า 80%  พอร์ต USB-C  

ย้ายปุ่ม Touch ID ไปไว้ที่ปุ่มเพาเวอร์ มีรุ่นเซลลูลาร์ รองรับ 5G   รองรับ Apple Pencil รุ่นที่ 2 

กล้องหลัง 1 ตัว ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล กล้องหน้าความละเอียดเท่ากัน ultra wide กับการใช้งาน Center Stage หรือจัดอยู่ตรงกลาง ใช้งาน FaceTime  กล้องจะแพนอัตโนมัติเพื่อให้ผู้อยู่ในจออยู่ในสายตาตลอดฃในระหว่างเคลื่อนที่ไปรอบๆ  พร้อมกับ iPadOS15 ที่มาพร้อมกับคุณสมบัติใหม่ ๆ ช่วยให้การใช้ iPad mini เกิดประโยชน์มากกว่าเดิม 

มี 4 สี สีชมพู สีสตาร์ไลท์ สีม่วง และสีเทาสเปซเกรย์

iPad mini 6

  • รุ่น WiFi ความจุ 64GB ราคา 17,900 บาท
  • รุ่น WiFi + Cellular ความจุ 64GB ราคา 23,400 บาท
  • รุ่น WiFi ความจุ 256GB ราคา 23,400 บาท
  • รุ่น WiFi + Cellular ความจุ 256GB ราคา 28,900 บาท

iPad รุ่นที่ 9

สำหรับ iPad รุ่นที่ 9 เป็นรุ่นกับหน้าจอขนาด 10.2 นิ้ว แบบ Retina  การแสดงผลแบบ True Tone ใช้ชิป A13 Bionic ใช้งานซีพียู กราฟฟิกและ AI เร็วกว่ารุ่นก่อน 20% Apple ระบุด้วยว่า เร็วกว่าคู่แข่งอย่าง  Chromebook รุ่นที่ขายดีที่สุดถึง 3 เท่า และเร็วกว่าแท็บเล็ต Android รุ่นที่ขายดีที่สุดอย่างเทียบกันไม่ติดถึง 6 เท่า  

ราคาเริ่มต้นที่ 11,400 บาทในรุ่น 64GB  ด้วยดีไซน์บางและเบา พร้อมมีรุ่นเซลลูลาร์ให้เลือก  รองรับ Apple Pencil  และ Smart Keyboard 

กล้องหน้าultra wide ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล กับการใช้งาน Center Stage หรือจัดอยู่ตรงกลาง ใช้งาน FaceTime กล้องจะแพนอัตโนมัติเพื่อให้ผู้อยู่ในจออยู่ในสายตาตลอดในระหว่างเคลื่อนที่ไปรอบๆ  พร้อมกับ iPadOS15 ที่มาพร้อมกับคุณสมบัติใหม่ ๆ ช่วยให้การใช้ iPad mini เกิดประโยชน์มากกว่าเดิม 

มี 2 สีคือสีสเปซเกรย์และสีเงิน

iPad รุ่นที่ 9

  • รุ่น WiFi ความจุ 64 GB ราคา 11,400 บาท
  • รุ่น WiFi ความจุ 256 GB ราคา 16,900 บาท
  • รุ่น WiFi + Cellular ความจุ 64 GB ราคา 16,400 บาท
  • รุ่น WiFi + Cellular ความจุ 256 GB ราคา 21,900 บาท