AOT ดีเดย์ 1 ก.ค.65 ครบปีที่ 43 ดันองค์กรดิจิทัลเต็มตัว ลุ้นรับทัวร์จีนเปิดประเทศ ต.ค.65 ปรับโฉม 3 สนามบิน

  • ลั่น 1 ก.ค.65 พร้อมนำธุรกืจ 6 สนามบิน ยกระดับพัฒนาบริการเป็น “องค์กรดิจิทัลเต็มรูปแบบ”
  • ทุ่มใช้ AOT Digital Platform สร้างควาามสะดวกรวดเร็ว
  • ลุ้นจีนเปิดประเทศ ต.ค.นี้ โกยนักท่องเที่ยวโกลเด้นวีค หรือ ม.ค.65 รับเทศกาลปีใหม่
  • ใส่เกียร์ลุยภายใน 2 ปีหน้า กระตุ้นผู้โดยสารทั่วโลกเข้าไทย 142 ล้านคน/ปี
  • พร้อมเฝ้าระวัง 2 ตัวแปรใหญ่ จีนเปิดประเทศและการกลับมาของโรคระบาด
  • ควบปรับใหม่ “สุวรรณภูมิ-ดอนเมือง-เชียงราย”

นายนิตินัย ศิริสมรรถการ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) “ทอท.หรือ AOT” เปิดเผยว่า ในโอกาสวันที่ 1 กรกฎาคม 2565 เป็นวันที่บริษัทก้าวสู่ปีที่ 43 จึงขอประกาศให้เป็น “องค์กรดิจิทัล” เต็มรูปแบบ โดยการเพิ่มประสิทธิภาพบริการรองรับผู้เดินทางที่จะฟื้นตัวกลับมาอย่างรวดเร็วหลังสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ทั่วโลกคลี่คลายลง

โดยมุ่งมั่นดำเนินธุรกิจสนามบิน 6 แห่ง ได้แก่ สุวรรณภูมิ (ทสภ.) ดอนเมือง (ทดม.) เชียงใหม่ แม่ฟ้าหลวง เชียงราย(ทชร.) ภูเก็ต และหาดใหญ่ ฟื้นกลับมาโดยเร็วในปีงบประมาณ 2565 คาดว่าจะมีผู้โดยสารรวมทั้งหมด 45 ล้านคนคิดเป็น 33%ของปีปกติ 2562 จากนั้นภายใน 2 ปี ตั้งแต่ปี 2567 จะกลับสู่ยุครุ่งเรืองอีกครั้งด้วยจำนวนผู้โดยสาร  142 ล้านคน สอดคล้องตามพยากรณ์ของหน่วยงานระดับโลก 3 งค์กร ได้แก่สมาคมขนส่งทางอากาศระหว่างประเทศ(International Air Transport Association : IATA) องค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (International Civil Aviation Organization : ICAO) และ S&P Global 

AOT ความมั่นใจจะสามารถให้บริการและอำนวยความสะดวกผู้โดยสารด้วยเทคโนโลยีที่มีประสิทธิภาพ เพื่อสร้างความประทับใจให้แก่ผู้ใช้บริการ ดำเนินธุรกิจด้วยมาตรฐานเหนือระดับ สร้างมูลค่าเพิ่มและสำนึกในความรับผิดชอบต่อสังคม บริหารงานภายใต้หลักธรรมาภิบาลเพื่อการเติบโตอย่างมั่นคง ยั่งยืน

ด้วยการพัฒนาทุกสนามบินตามแผนแม่บทแล้ว ควบคู่การนำองค์กรก้าวสู่ยุคการบริหารยุคนวัตกรรมที่จะเพิ่มประสิทธิภาพการบริการและดำเนินการโดยใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีและข้อมูลมากมายที่กระจายอยู่ทั่วองค์กรมาทำการศึกษาข้อมูล นำไปวิเคราะห์โดยคำนึงถึงสิทธิส่วนบุคคล ทำความเข้าใจให้ทุกส่วนเชื่อมโยงกัน เพื่อขับเคลื่อนองค์กรสู่การบริหารจัดการและให้บริการในโลกดิจิทัลอย่างเต็มรูปแบบภายใต้โครงการ AOT Digital Platform ที่จะตอบโจทย์ความต้องการของผู้ใช้บริการด้วยความสะดวกสบาย ปลอดภัย และรวดเร็ว ทั้งด้านการเดินทางและการรับ-ส่งสินค้าทางอากาศ 

นายนิตินัยยืนยันว่า ตามแผนปีงบประมาณ 2566 AOT พร้อมก้าวสู่ปีที่ 43 ตั้งเป้าจะทำให้ทั้ง 6 สนามบินมีผู้โดยสารเพิ่มจากปัจจุบัน 2 เท่า รวมประมาณ 96 ล้านคน ฟื้นตัวกลับมาได้ 68% พร้อมกับเฝ้าระวังสถานการณ์ปีงบประมาณ2567 ต้องป้องกันตัวแปรที่จะส่งผลต่อการเดินทางของผู้โดยสาร 2 ปัจจัยหลักคือ

ปัจจัยแรก -นโยบายการเปิดประเทศของสาธารณรัฐประชาชนจีน ถือเป็นตัวแปรสำคัญต้องติดตามอย่างใกล้ชิด หากจีนเปิดประเทศ 1.เดือนตุลาคม 2565 AOT จะได้ประโยชน์จากช่วงวันหยุดยาวประจำชาติจีน หรือช่วง Golden Week 2.หากเปิดประเทศเดือนมกราคม 2566 ก็เตรียมนักเดินทางเทศกาลปีใหม่ ยกเว้นจีนจะเปิดประเทศหลังสองช่วงนี้ไปแล้ว ไทยก็จะเสียโอกาสช่วงดังกล่าวไปอย่างน่าเสียดาย

ในช่วงเวลาสำคัญในการรอรับตลาดจีน AOT ยังคงจะต้องอาศัยความร่วมมือร่วมใจกันของทุกฝ่าย เพื่อให้ธุรกิจดำเนินไปได้ด้วยกันอย่างเข้มแข็งและพร้อมรับมือกับทุกสถานการณ์

ปัจจัยที่สอง-โอกาสการกลับมาระบาดของโควิด-19 สายพันธุ์ใหม่ หรือโรคระบาดอื่นๆ 

นายนิตินัย กล่าวว่า ช่วงก่อนเกิดโควิด-19 เมื่อปี 2562 มีผู้โดยสารได้กว่า 141.87 ล้านคน นับจากปี 2565 เป็นต้นไปไม่ว่าปริมาณผู้โดยสารจะฟื้นตัวกลับมาในปีใดก็ตาม AOT ก็ยังคงพร้อมให้บริการอยู่เสมอ โดยไม่เคยลดคุณภาพการให้บริการ ไม่ลดพนักงาน และยังคงมีการฝึกอบรมบุคลากร รวมถึงการต่อใบอนุญาตตามมาตรฐานของสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทยในด้านต่างๆ อย่างต่อเนื่อง 

ขณะนี้ AOT ยังได้เตรียมความพร้อมในส่วนอาคารสถานที่ตามมาตรฐานสากลตลอดมา เมื่อก้าวเข้าสู่ปีที่ 43 จะเพิ่มความเข้มข้นแผนการลงทุนเดินหน้าพัฒนาทุกด้านให้มีประสิทธิภาพและดียิ่งขึ้นต่อไป เพื่อเพิ่มขีดความสามารถพร้อมรับผู้โดยสารทั้งประทศและทั่วโลก ที่จะนำรายได้เข้ามาฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศในอนาคตอันใกล้นี้

ขณะนี้ AOT ไเร่งปรับปรุงศักยภาพขีดความมสามารถของ 3 สนามบิน ดังต่อไปนี้ 

เริ่มจาก “สนามบินสุวรรณภูมิ” 1.อยู่ระหว่างทดสอบระบบต่าง ๆ อาคารเทียบเครื่องบินรองหลังที่ 1 (Satellite 1 : SAT-1)  เตรียมเปิดให้บริการผู้โดยสารเพิ่มขึ้นได้อีกปีละ 45 เป็น 60 ล้านคน 2.อยู่ระหว่างก่อสร้างทางวิ่งเส้นที่ 3 ก้าวหน้าไปแล้วกว่า 35.68% คาดจะก่อสร้างแล้วเสร็จปี 2566 สามารถรองรับเที่ยวบินเพิ่มขึ้นเป็น 94 เที่ยว/ชั่วโมงและรองรับเที่ยวบินในช่วงที่ปิดซ่อมทางวิ่งเส้นที่ 1 และเส้นที่ 2 

ต่อด้วย “สนามบินดอนเมือง” จะเริ่มเปิดใช้งาน Taxi Drop Lane ตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2565 เป็นต้นไป ซึ่งจะเพิ่มช่องจราจรแยกเฉพาะรถแท็กซี่ได้ 2 เลน ช่วยลดปัญหาการจราจรติดขัดหน้าอาคารผู้โดยสาร 

“สนามบินแม่ฟ้าหลวงเชียงราย” 1.อยู่ระหว่างก่อสร้างระบบทางขับขนานด้านทิศเหนือ 2.ปรับปรุงทางขับท้ายหลุมจอด พร้อมทางขับ A และ B โครงการศูนย์ซ่อมอากาศยาน (Maintenance, Repair and Overhaul : MRO) 3.ปรับปรุงพื้นที่หัวทางวิ่งด้าน 03 และ 21 

เรื่องโดย…#เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน #GURUTOURZA, www.facebook.com/penroongyaisamsaen