เศรษฐา ลั่นไม่เมินฝุ่นพีเอ็ม2.5 สู่ มะเร็งปอด

เศรษฐา ลั่นไม่มองข้ามฝุ่นพิษพีเอ็ม2.5 สาเหตุสู่ มะเร็งปอด จะพยายามอย่างเต็มที่ ทุกมิติ เพื่อแก้ไขปัญหาให้เร็วและยั่งยืนที่สุด หลังพบว่า ผู้ป่วยมะเร็งปอด เป็นคนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ภาคเหนือมากที่สุดในประเทศ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากที่กรมการแพทย์ออกมาระบุว่า มีผู้ป่วยมะเร็งปอด ในภาคเหนือมากที่สุดเฉลี่ยจำนวน 2,487 รายต่อปี และเสียชีวิต 1,800 รายต่อปี   ล่าสุด นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง ออกมาโพสต์ข้อความผ่าน X ระบุว่า ทราบดีถึงความเดือดร้อนของประชาชน จากผลกระทบจากฝุ่นพีเอ็ม 2.5 และมุ่งมั่นแก้ไขปัญหาอย่างรอบด้าน

ทั้งนี้ได้ขอให้ รมว. สาธารณสุข รมช. มหาดไทย ไปช่วยบริหารสถานการณ์และสนับสนุนการให้ความช่วยเหลือในพื้นที่ตามที่จังหวัดได้ออก มาตรการทางสาธารณสุข จังหวัดเชียงใหม่ ในภาวะฝุ่นพีเอ็ม 2.5

สำหรับมาตรการด้านสุขภาพ จังหวัดได้เตรียมการเรื่องห้องปลอดฝุ่น การจัดหาหน้ากากอนามัย และได้เน้นย้ำให้ดูแลกลุ่มเปราะบางเป็นพิเศษ รวมทั้งให้วางมาตรการเพื่อตรวจความเสี่ยงในการเป็นมะเร็งปอดด้วย

ส่วนเรื่องไฟป่า ทางจังหวัดเชียงใหม่ ได้ใช้ทุกมาตรการเพื่อป้องกันการเผาป่า และไฟป่า ใช้เครื่องบินฝนหลวงบรรเทาสถานการณ์ ใช้มาตรการด้านอาชีพ และการตั้งรางวัลนำจับผู้เผาป่า แต่ก็ยังพบการเผา ซึ่งเจ้าหน้าที่เข้าดำเนินการในการดับไฟอย่างรวดเร็วที่สุด แต่ยังมีปัญหาการเผาจากประเทศเพื่อนบ้าน ทำให้อำเภอชายแดนมีค่า พีเอ็ม2.5 สูงมาก

“ฝุ่นพีเอ็ม2.5 คือปัญหาระดับชาติที่รัฐบาลต้องขอความร่วมมือกับทุกภาคส่วน รวมไปถึงประเทศเพื่อนบ้าน ฝากพี่น้องประชาชนทุกท่านช่วยดูแลพื้นที่ของท่านเอง หากพบการเผา หรือพบไฟไหม้ป่า ช่วยแจ้งองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น หรืออำเภอเพื่อเข้าระงับสถานการณ์โดยเร็วครับ” นายกรัฐมนตรีระบุ

ข้อมูลการจัดอันดับคุณภาพอากาศของเมืองใหญ่ทั่วโลก
การจัดอันดับคุณภาพอากาศยอดแย่ของเมืองใหญ่ เชียงใหม่ของไทย ติดอันดับ 2 ของโลก

ส่วนคุณภาพอากาศ จากการรายงานของเว็บไซต์ AQAir ล่าสุดเมื่อช่วงเที่ยงของวันนี้ จ.เชียงใหม่มีคุณภาพแย่เป็นอันดับ 2 ของโลก ดัชนีคุณภาพอากาศอยู่ที่ 185 AQI ส่วนอันดับ 1 คือ เมืองเดลี ประเทศอินเดีย 197AQI

สำหรับแนวทางการดูแลตัวเองให้ปลอดภัยจากฝุ่นพีเอ็ม 2.5 เพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยงจากการเป็นมะเร็งปอด มีดังนี้คือ

  • งดการทำกิจกรรมกลางแจ้ง หรืออยู่ในที่โล่ง ช่วงที่มีฝุ่นพีเอ็ม2.5 หนาแน่น
  • ใส่หน้ากากอนามัยที่ป้องกันฝุ่นพีเอ็ม2.5ได้
  • อยู่ในบ้าน ปิดหน้าต่างให้เรียบร้อย
  • ใช้เครื่องปรับอากาศ

ทั้งนี้ข้อมูลจากองค์การอนามัยโลก ระบุว่า มีคนเสียชีวิตจากมลพิษทางอากาศ 7 ล้านคนต่อปี ด้วยสาเหตุจากการสัมผัสฝุ่นละเอียดในอากาศที่มีมลพิษ

และประชากรโลกกว่า 91% ของจำนวนทั้งหมด หายใจด้วยอากาศที่ส่งผลเสียต่อสุขภาพ อาศัยอยู่ในสถานที่ที่คุณภาพอากาศต่ำกว่าที่แนวทางขององค์การอนามัยโลกกำหนด

แหล่งที่มา: องค์การอนามัยโลก