“อินทนิล” ธุรกิจกลุ่มบางจาก จับมือ กทม.ขานรับวันสิ่งแวดล้อมโลก อินทนิล มอบแก้วไบโอคัพ 7.2 แสนใบ ต่อยอดใช้ในเพิ่มพื้นที่สีเขียวทั่วกรุง ในโครงการแก้วเพาะกล้าสิ้นปี’67 มีแก้วเพิ่มพร้อมใช้ประโยชน์มากสุดอีกเกือบ 200 ล้านใบ
นายโชคชัย อัศวรังสฤษฎ์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ กลุ่มงานบริหารและพัฒนาศักยภาพองค์กร บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ร่วมกับนายยศธร อรัญนารถ ผู้จัดการใหญ่ บริษัท บางจาก รีเทล จำกัด ในกลุ่มบริษัทบางจาก
ขานรับวันสิ่งแวดล้อมโลก 5 มิถุนายน 2567 โดยได้ส่งมอบแก้วย่อยสลายอินทนิลไบโอคัพใช้แล้ว 720,000 ใบ ให้กรุงเทพมหานคร โดยมีนายวิศณุ ทรัพย์สมพล รองผู้ว่า กทม.รับมอบแก้วร่วมขับเคลื่อนโครงการฯ ตามแนวคิดส่งต่อโลกที่ยั่งยืนให้คนรุ่นต่อไป
แก้วอินทนิลไบโอคัพของบางจากซึ่งย่อยสลายได้สามารถนำไปเพาะกล้า ใช้ให้เกิดประโยชน์เรื่องการเพิ่มพื้นที่สีเขียวทั่วกรุงได้ใน “งานปลูกต้นราชพฤกษ์ จากเมล็ดต้นราชพฤกษ์ทรงปลูกของในหลวง รัชกาลที่ 9 เนื่องในวันสิ่งแวดล้อมโลก ประจำปี 2567 ที่เขตบางบอน ต่อเนื่องจากเมื่อช่วงสิ้นปี 2566 แบรนด์อินทนิลได้ส่งมอบแก้ว ไบโอคัพใช้แล้วให้กับองค์กรพันธมิตรต่าง ๆ นำไปประโยชน์แล้วกว่า 3 ล้านใบ
สำหรับอินทนิลเป็นหนึ่งใน “ผู้นำร้านกาแฟรักษ์โลก” ริเริ่มใช้แก้วไบโอคัพมีคุณสมบัติหลักทางชีวภาพสามารถย่อยสลายได้ภายใน 180 วัน (ภายใต้สภาวะที่เหมาะสม) ดังนั้นบางจากเป็นรายแรกในเมืองไทยที่รณรงค์ให้ทุกสาขาทั่วประเทศเดินหน้าโครงการนี้มาตั้งแต่ปี 2558 ยอดสรุปเมื่อเดือนเมษายน 2567 ร้านกาแฟอินทนิลใช้แก้วไบโอคัพไปแล้วกว่า 170 ล้านใบ ถือเป็นผู้ใช้รายใหญ่ที่สุดในอาเซียน คาดสิ้นสุดปี 2567 จะใช้แก้วชนิดนี้มากถึง 195 ล้านใบ ซึ่งสามารถย่อยสลายนำไปใช้ประโยชน์อย่างอื่นได้ด้วย
แล้วอินทนิลได้เริ่มต้นโครงการ “แก้วเพาะกล้า” เกิดจากความร่วมมือระหว่าง บริษัท บางจาก รีเทล จำกัด กับกรมป่าไม้ เนื่องใน วันสิ่งแวดล้อมโลก เมื่อเดือนมิถุนายน 2562 มีจุดมุ่งหมายเพื่อลดปริมาณขยะจากการใช้ถุงพลาสติกดำเพาะกล้าไม้เปลี่ยนมาใช้แก้วอินทนิลไบโอคัพใช้แล้วผลิตจากพืช 100% จากนั้น ก็ได้ส่งมอบให้ศูนย์เพาะชำกล้าไม้ทั่วประเทศ ต่อเนื่องทุกปี กระทั่งล่าสุดครั้งเป็นปีที่ 5 รวมทั้งได้เชิญชวนลูกค้าเข้ามามีส่วนร่วมลดขยะและเพิ่มพื้นที่สีเขียว เปิดจุดรับคืนในร้านอินทนิลทั่วประเทศเชิญชวนลูกค้าช่วยกันนำแก้วใช้แล้วมาคืน รวบรวมนำไปมอบให้องค์กรต่าง ๆ ใช้งานที่เป็นประโยชน์ต่อไป
-เรื่องโดย #เพ็ญรุ่งใยสามเสน
ทั้งนี้ บรรจุภัณฑ์อื่นๆ ของอินทนิล ได้แก่ ฝายกดื่ม ฝาโดม และ หลอด ล้วนแต่ผลิตจากพลาสติกชีวภาพ สามารถย่อยสลายได้ 100% เพื่อช่วยลดขยะอย่างยั่งยืน และ บริษัทฯ มีการสนับสนุน ให้ลูกค้าใช้แก้วส่วนตัว โดยเป็นผู้ริเริ่ม โครงการนี้เป็นรายแรกๆ ของประเทศ และล่าสุดได้รณรงค์ “โครงการให้หลอดเมื่อขอ” เพื่อ ลดการใช้หลอด และ ลดขยะที่ไม่จำเป็น สอดคล้อง กับแนวทางการดำเนินธุรกิจ ด้วยความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม ที่แบรนด์อินทนิล ให้ความสำคัญ มาตลอดระยะการดำเนินธุรกิจกว่า 18 ปี
ข่าวที่เกี่ยวข้อง : อินทนิลกลุ่มบางจากรุกตลาดYoungGenขยาย100สาขา
ขอขอบคุณข้อมูลเพิ่มเติม : การหยั่งรากธุรกิจให้มีความมั่นคง รวมถึงการขยายสาขาเป็นกิ่งก้านที่ครอบคลุมไปทั่วประเทศนั้น ทำให้ลูกค้ารู้จักอินทนิล ในแง่ของแบรนด์ที่ให้บริการเครื่องดื่มคุณภาพ ทั้งการเลือกใช้เมล็ดอาราบิก้าแท้ 100% มาเป็นวัตถุดิบกาแฟรสชาติเข้มข้น หอมละมุน กลมกล่อม และเมนูเครื่องดื่มอื่นๆ นอกเหนือจากกาแฟที่ได้รับความนิยมไม่แพ้กัน เช่น โกโก้ ที่ลูกค้ายกให้เป็นโกโก้ที่อร่อยเข้มข้นโดนใจ หรือ เมนูพิเศษที่คิดค้นขึ้นจากวัตถุดิบตามฤดูกาล
เพื่อ สร้างสรรค์ประสบการณ์ ของการพักผ่อนกับเครื่องดื่มแก้วโปรดสำหรับทุกคน เมื่อเข้าไปทำความรู้จัก กับอินทนิล มากขึ้น จึงพบว่านอกจากรสชาติ และ การบริการแล้ว ยังมีรายละเอียด ในกระบวนการทำธุรกิจ ตั้งแต่การคัดเลือกวัตถุดิบ สำหรับทำเมนู การออกแบบบรรจุภัณฑ์ การตกแต่งร้าน ไปจนตลอดถึงปลายทาง ของแก้วกาแฟที่คิด และ สร้างสรรค์ขึ้นเพื่อสิ่งแวดล้อมทั้งนั้น
เช่น การเลือกใช้พลาสติกชีวภาพ ที่สามารถย่อยสลายตามธรรมชาติภายใน 180 วัน หากนำไปฝังกลบ ในสภาวะที่เหมาะสม การออกแบบฝายกดื่ม เพื่อลดปริมาณการใช้หลอด การรณรงค์ให้ลูกค้า นำแก้วของอินทนิล กลับมาแลก เป็นส่วนลด เพื่อ นำแก้วไปมอบให้ กรมป่าไม้ใช้สำหรับเพาะกล้าในโครงการ แก้วเพาะกล้า หรือการเลือกใช้วัสดุรีไซเคิล เป็นวัสดุในการตกแต่งร้านสาขาใหม่ๆ ซึ่งล้วนแต่เป็นต้นทุนทางธุรกิจที่อินทนิล แบกรับเพื่อรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมทั้งสิ้น
