“ไทย-ญี่ปุ่น”จับมือกันพัฒนาโลจิสติกส์ไทย และ ภูมิภาค อาเซียนให้มีประสิทธิภาพ-หวังสร้างความมั่นใจดึงดูดนักลงทุนต่างชาติเข้ามาลงทุนในไทย อาเซียน

“ศักดิ์สยาม”ร่วมกับเอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทย นำทีมสร้างความร่วมมือในการพัฒนาศักยภาพด้านโลจิสติกส์ไทยและภูมิภาคอาเซียนใน 4 มิติ บก น้ำ ราง อากาศ ให้มีการขนส่ง อย่างมีประสิทธิภาพ คุ้มค่า และปลอดภัย เชื่อมโยงอย่างไร้รอยต่อทั้งภายในประเทศและระหว่างประเทศ หวังดึงดูดให้นักลงทุนต่างชาติเกิดความมั่นใจเข้ามาลงทุนในไทย อาเซียน

นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม และนายคาสุยะ นาชิดะ เอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทย กล่าวสุนทรพจน์เปิดงานสัมมนา เรื่อง “โลจิสติกส์ภูมิภาคอาเซียนท่ามกลางกระแสคลื่นแห่งความยากลำบาก – สถานการณ์ปัจจุบันในภูมิภาคอาเซียนโดยมุ่งเน้นที่ประเทศไทย” เนื่องในโอกาสการฉลองครบรอบ 1 ปี การตั้งสำนักงานสถาบันวิจัยด้านการขนส่งและการท่องเที่ยวญี่ปุ่น สำนักงานภูมิภาคอาเซียน – อินเดีย  ว่า ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศไทยและญี่ปุ่นที่ได้ดำเนินความร่วมมือด้านการคมนาคมมีมาต่อเนื่อง ซึ่งเป็นการส่งเสริมศักยภาพด้านโลจิสติกส์ให้แก่ประเทศไทยและภูมิภาคอาเซียน เชื่อมโยงระหว่างกันในภูมิภาคอาเซียนเ ขณะเดียวกันช่วยผลักดันให้ไทยขับเคลื่อนการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานในทุกมิติ เกิดการขนส่งอย่างมีประสิทธิภาพ เชื่อมโยงอย่างไร้รอยต่อทั้งภายในประเทศและระหว่างประเทศ ซึ่งการพัฒนาด้านต่างๆจะเป็นปัจจัยหลักในการดึงดูดนักลงทุนญี่ปุ่นและประเทศต่าง ๆ ให้มาลงทุนในไทยและภูมิภาคอาเซียน

ทั้งนี้ในการพัฒนากาารคมนาคมขนส่ง ประเทศไทยได้มีการพัฒนาในโครงการต่างๆ ใน 4 มิติ ทั้งทางถนน ทางราง ทางน้ำ และ ทางอากาศ ซึ่งทางถนน ประเทศไทยร่วมมือกับประเทศเพื่อนบ้านในการพัฒนาสะพานมิตรภาพเชื่อมโยงระหว่างกันมาอย่างต่อเนื่อง โดยปัจจุบันมีสะพานเชื่อมไทยกับประเทศเพื่อนบ้านเปิดใช้งานแล้ว    จำนวน 11 แห่ง เป็นสะพานเชื่อมระหว่างไทย – สปป.ลาว จำนวน 5 แห่ง สะพานเชื่อมระหว่างไทย – เมียนมา จำนวน 3 แห่ง สะพานเชื่อมระหว่างไทย – มาเลเซีย จำนวน 2 แห่ง สะพานเชื่อมระหว่างไทย – กัมพูชา จำนวน 1 แห่ง สะพานที่อยู่ระหว่างการก่อสร้างจำนวน 1 แห่ง ได้แก่ สะพานมิตรภาพไทย – ลาว แห่งที่ 5 (บึงกาฬ – บอลิคำไซ) จังหวัดบึงกาฬ และมีสะพานที่อยู่ในแผนจะดำเนินการในอนาคตอันใกล้อีกจำนวน 3 สะพาน ได้แก่ สะพานมิตรภาพไทย – ลาว แห่งที่ 6 (อุบลราชธานี – สาละวัน) จังหวัดอุบลราชธานี สะพานข้ามแม่น้ำโก-ลกแห่งที่ 2 ที่อำเภอสุไหงโก-ลก จังหวัดนราธิวาส และสะพานข้ามแม่น้ำโก-ลก ที่อำเภอตากใบ จังหวัดนราธิวาส 

ส่วนการขนส่งทางราง  ไทยมีการเชื่อมโยงกับประเทศมาเลเซีย กัมพูชา และ สปป.ลาว ในปัจจุบันกระทรวงคมนาคมกำลังก่อสร้างโครงข่ายรถไฟทางคู่ เพื่อพัฒนาศักยภาพด้านการขนส่งสินค้าและผู้โดยสารผ่านระบบรางเพื่อลดต้นทุนการขนส่งสินค้าของประเทศ ซึ่งในปัจจุบันสามารถพัฒนารถไฟทางคู่ไปแล้ว 1,110 กิโลเมตร จากทั้งหมด 3,200 กิโลเมตร นอกจากนี้กระทรวงคมนาคมยังมีโครงการพัฒนารถไฟความเร็วสูงอีก 2 เส้นทาง ได้แก่ รถไฟความเร็วสูง ช่วงกรุงเทพฯ – นครราชสีมา และในอนาคต     จะขยายต่อไปถึงจังหวัดหนองคาย เพื่อเชื่อมต่อรถไฟความเร็วสูง สปป.ลาว – จีน และรถไฟความเร็วสูง  อีกเส้นทางหนึ่ง ได้แก่ รถไฟความเร็วสูงเชื่อมสามสนามบิน (ดอนเมือง – สุวรรณภูมิ – อู่ตะเภา)

นายศักดิ์สยาม กล่าวต่ออีกว่า ในส่วนการขนส่งทางน้ำนั้น กระทรวงคมนาคมอยู่ระหว่างขยายขีดความสามารถของท่าเรือแหลมฉบัง ระยะที่ 3 รวมถึงการพัฒนาเครือข่ายท่าเรือบกเพิ่มเติมอีก 4 แห่ง เพื่อเพิ่มศักยภาพในการขนส่งสินค้า การนำเข้าและส่งออกของประเทศไทยและประเทศต่าง ๆ ในอาเซียน  ส่วนการขนส่งทางอากาศ อยู่ระหว่างพัฒนาสนามบินหลัก ได้แก่ สนามบินสุวรรณภูมิ สนามบินดอนเมือง และสนามบินอู่ตะเภา เพื่อให้ประเทศไทย เป็นศูนย์กลางการบินของภูมิภาคอาเซียน ควบคู่กับการพัฒนาสนามบินในเมืองภูมิภาค เช่น เชียงใหม่ เชียงราย อุดรธานี หาดใหญ่ ภูเก็ต กระบี่ และบุรีรัมย์  

“ในอนาคตกระทรวงคมนาคมยังมีเป้าหมายจัดทำแผนแม่บท MR-Map เพื่อการพัฒนาโครงข่ายมอเตอร์เวย์ควบคู่กับรถไฟทางคู่ในพื้นที่เดียวกันเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพระบบโลจิสติกส์ของประเทศให้มีความสะดวก รวมถึงโครงการ Land Bridge ชุมพร – ระนอง ที่จะเป็นเส้นทางขนส่งสินค้าทางน้ำที่สำคัญของภูมิภาคอาเซียนในอนาคตและยกระดับให้ไทยเป็นศูนย์กลางการขนส่งสินค้าทางน้ำที่สำคัญ

ด้านนายชยธรรม์ พรหมศร ปลัดกระทรวงคมนาคม กล่าวในมุมมองที่เกี่ยวกับ “ความท้าทายและโอกาสของประเทศไทย” ว่า การเพิ่มขึ้นของประชากรและการขยายตัวของเมือง เป็นพื้นฐานที่สำคัญที่มีผลต่อการขนส่งและโลจิสติกส์ในประเทศ การจัดทำยุทธศาสตร์พัฒนาระบบการขนส่งของไทย ระยะ 20 ปี (พ.ศ. 2561 – 2580) มุ่งเน้นการรองรับวิถีชีวิตและพฤติกรรมที่เปลี่ยนแปลงไปตามการพัฒนาเทคโนโลยีด้านต่าง ๆ

โดยยึดหลักการขนส่งที่ปลอดภัยและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม การขนส่งที่เข้าถึงได้อย่างเสมอภาค และเท่าเทียมและการขนส่งที่มีประสิทธิภาพ โดยที่ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการขนส่งทางรางในภูมิภาคอาเซียน โครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจเชื่อมอ่าวไทยและทะเลอันดามันที่จังหวัดชุมพรและระนอง หรือ Land Bridge ที่มุ่งเน้นการพัฒนาความเชื่อมโยงของโครงข่ายการขนส่งทางบก ทางรางกับทางน้ำ ระหว่างไทยและประเทศต่าง ๆ ซึ่งจะช่วยยกระดับการพัฒนาศักยภาพโลจิสติกส์และห่วงโซ่อุปทานทางทะเล และเตรียมความพร้อมสำหรับการเป็นประตูการค้าเชื่อมอาเซียนและจีนตอนใต้ในอนาคตต่อไป