พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม พระราชทานผ้าพระกฐินให้มูลนิธิเพชรรัตน – สุวัทนา โดยพลเอก หม่อมเจ้าเฉลิมศึก ยุคล ประธานในพิธี เชิญไปทอดถวายพระภิกษุสงฆ์ ซึ่งจำพรรษาถ้วนไตรมาส ณ วัดป่าโมกวรวิหาร
วันนี้ ( 5 พฤศจิกายน 2565) เวลา 10.30 น. พลเอก หม่อมเจ้าเฉลิมศึก ยุคล เสด็จไปทรงเป็นประธานในพิธีถวายผ้าพระกฐินซึ่ง พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมพระราชทานแก่ มูลนิธิเพชรรัตน – สุวัทนา เพื่อเชิญไปทอดถวายพระภิกษุสงฆ์ซึ่งจำพรรษาถ้วนไตรมาส ณ วัดป่าโมกวรวิหาร อำเภอป่าโมก จังหวัดอ่างทอง โดยมี พระศรีวิสุทธิโสภณ เจ้าคณะอำเภอเมืองอ่างทอง เจ้าอาวาสวัดป่าโมกวรวิหาร เป็นประธานฝ่ายสงฆ์
ในการนี้ นายรังสรรค์ ตันเจริญ ผู้ว่าราชการจังหวัดอ่างทอง พร้อมด้วย นางสาวเอกรัตน์ นาคาคง รองผู้ว่าราชการจังหวัดอ่างทอง หัวหน้าส่วนราชการ และพุทธศาสนิกชน เข้าร่วมในพิธีถวายผ้าพระกฐินพระราชทานในครั้งนี้
มูลนิธิเพชรรัตน – สุวัทนา มีวัตถุประสงค์ประการหนึ่งเพื่อสืบสานพระปณิธานในการทำนุบำรุง พระบวรพุทธศาสนา ตลอดจนเผยแผ่พระเกียรติคุณสมเด็จพระเจ้าภคินีเธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดาสิริโสภาพัณณวดี และพระนางเจ้าสุวัทนา พระวรราชเทวี ในรัชกาลที่ 6 ผู้พระราชทานและประทานกำเนิดมูลนิธิฯ จึงได้อนุวัตพระปฏิบัติในการถวายผ้าพระกฐินแด่พระภิกษุสงฆ์ ปีละ 1 วัด สืบมาทุกปี ในพุทธศักราช 2465 พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้เสด็จพระราชดำเนินมาทรงนมัสการพระพุทธไสยาสน์ และทรงบำเพ็ญพระราชกุศลถวายผ้าพระกฐิน ณ วัดป่าโมก ปี 2565 นี้จึงเป็นอภิลักขิตสมัย 100 ปีแห่งการเสด็จพระราชดำเนินในรัชกาลที่ 6
วัดป่าโมก เป็นพระอารามหลวงชั้นโท ชนิด วรวิหาร สันนิษฐานว่าสร้างนับแต่สมัยกรุงสุโขทัยมีพระพุทธไสยาสน์ และพระวิหารเขียน เป็นปูชนียวัตถุและโบราณสถานที่สำคัญ พระพุทธไสยาสน์ ภายในพระวิหารวัดป่าโมก มีพุทธลักษณะงดงามยิ่งองค์หนึ่งของประเทศไทย ในพระราชพงศาวดารกล่าวว่าสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ก่อนจะเสด็จพระราชดำเนินไปทรงกระทำยุทธหัตถีจนมีชัยชนะเหนือพระมหาอุปราชา ได้เสด็จกรีฑาทัพมาชุมนุมพลและถวายสักการบูชาพระพุทธไสยาสน์องค์นี้ ส่วนพระวิหารเขียนมีคำเล่าขานสืบมาว่า ในการชะลอพระพุทธไสยาสน์ให้พ้นจากกระแสน้ำเซาะตลิ่งครั้งนั้น สมเด็จพระเจ้าท้ายสระได้เสด็จพระราชดำเนินมาทรงอำนวยการและประทับแรม ณ พระวิหารเขียน วัดป่าโมกแห่งนี้โอกาสนั้น สมเด็จพระเจ้าบรมโกศ เมื่อครั้งทรงดำรงพระราชอิสริยยศที่กรมพระราชวังบวรสถานมงคลได้ทรงพระราชนิพนธ์โคลงชะลอพระพุทธไสยาสน์ บันทึกเหตุการณ์และสรรเสริญพระบารมีสมเด็จพระเจ้าท้ายสระไว้ เป็นวรรณกรรมชิ้นเอกของกรุงศรีอยุธยาอีกด้วย ครั้นถึงกรุงรัตนโกสินทร์ วัดป่าโมก ยังได้รับพระราชทานพระบรมราชูปถัมภ์จากพระบรมราชจักรีวงศ์ เป็นที่ทรงพระราชศรัทธาเสด็จพระราชดำเนินมาทรงบำเพ็ญพระราชกุศลสืบมานับแต่รัชกาลที่ 5 ตราบถึงรัชกาลปัจจุบัน
