โจมตีเรือสินค้าในทะเลแดงกระทบส่งออกไทยแล้ว

  • 3 เส้นทางโดนหนักทั้งอเมริกาเหนือ ตะวันออกกลาง ยุโรป
  • ค่าระวางเรือพุ่ง 400% ค่าเซอร์ชาร์จทะยาน สินค้าถึงล่าช้า
  • พาณิชย์จี้คงค่าระวางเรือที่จองล่วงหน้า-ประกาศเซอร์ชาร์จให้ชัด

ชัยชาญ เจริญสุข ประธานสภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย (สรท.) เปิดเผยภายหลังการหารือกับกระทรวงพาณิชย์เพื่อประเมินสถานการณ์ส่งออกสินค้าไทยจากการโจมตีเรือสินค้าในทะเลแดงว่า การประเมินล่าสุด พบว่า สถานการณ์ที่ทะเลแดงยังยืดเยื้อ ขณะนี้ผู้ส่งออกไทยที่ขนส่งสินค้าไปยังอเมริกาเหนือ ตะวันออกกลาง และยุโรป ได้รับผลกระทบจากการที่สายเดินเรือปรับขึ้นค่าระวาง และค่าธรรมเนียมต่างๆ เพิ่มขึ้นอีก เพราะมีความเสี่ยงมากขึ้น และต้องปรับเปลี่ยนเส้นทางขนส่ง ทำให้ระยะเวลาการขนส่งเพิ่มขึ้น อีกทั้งยังต้องแย่งกันจองเรือในการขนส่งสินค้าด้วย รวมถึงยังเกิดความไม่แน่นอนในระยะเวลาจัดดส่งสินค้าถึงมือลูกค้า ที่อาจต้องช้าลง


โดยสินค้าไทย ที่ได้รับผลกระทบดังกล่าว คือ ชิ้นส่วนยานยนต์ ที่ส่งไปซาอุดิอารเบีย แอฟริกาเหนือ และโรป, ยางล้อรถยนต์ อาหาร ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ ไปยุโรป ซึ่งสัดส่วนการส่งออกของไทยในภาพรวมไปยุโรป อยู่ที่ 7-8% ของการส่งออกไทยไปโลก ถือว่าเป็นตลาดสำคัญของไทย ผู้ส่งออกไม่ต้องการให้ต้นทุนค่าขนส่งสูงขึ้นมาก เพราะจะไม่เป็นผลดีต่อการส่งออกโดยรวมของไทยได้


ด้านนายสมพล ธนาดำรงศักดิ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ฟอร์จูน พาร์ท อินดัสตรี้ จำกัด ( มหาชน )กล่าวว่า ขณะนี้ ค่าระวางเรือที่ผ่านทะเลแดง ได้ปรับเพิ่มขึ้นมาแล้ว โดยเฉลี่ยเพิ่มขึ้น 200 -400% โดยในเส้นทางการขนสงไปเมืองเจดดาห์ ซาอุดิอารเบีย, เมืองอากาบา ของจอร์แดน , และเมืองซอคน่า ของอียิปต์ ค่าระวางเรือได้เพิ่มขึ้นมาเป็น 8,500 เหรียญสหรัฐฯต่อตู้ 20 ฟุต จากเดิมที่ 1,500 เหรียญฯ และไปตุรกี เพิ่มเป็น 7,500 เหรียญฯ จาก 2,400 เหรียญฯ สำหรับเส้นทางไปยุโรป เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 3 เท่าตัว


“ผู้ส่งออก และผู้นำเข้า จะต้องเตรียมการรับมือในการจองตู้และสายเดินเรือล่วงหน้าประมาณ 1 เดือนและหากเป็นสินค้าส่งออกที่ไม่จำเป็นเร่งด่วนมาก ควรรอ และยืดเวลาการส่งออกไปในช่วงสัปดาห์แรกของเดือนก.พ.นี้ ที่เป็นช่วงวันหยุดตรุษจีนของประเทศจีน เนื่องจากคาดว่า ค่าระวางเรือจะลดต่ำลงในช่วงนั้น เมื่อเทียบกับช่วงนี้ที่จีนกำลังเร่งนำเข้าและส่งออก ก่อนหยุดยาวตรุษจีน”


ส่วนนายภูสิต รัตนกุล เสรีเริงฤทธิ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กล่าวว่า ได้ขอให้บริษัทสายการเดินเรือคงค่าระวางเรือไว้ตามสัญญา ซึ่งได้รับคำมั่นว่า ค่าระวางเรือที่จองไว้ล่วงหน้า จะเป็นไปตามสัญญา ไม่ปรับขึ้น แต่หากจะปรับขึ้น จะขึ้นตามต้นทุนที่เพิ่มขึ้นจริง แต่ต้องขึ้นอยู่กับการพิจารณาของบริษัทแม่ด้วย


สำหรับค่าธรรมเนียน (เซอร์ชาร์จ) ต่างๆ ที่เกิดขึ้น ต้องการให้สายการเดินเรือ ประกาศให้ทราบชัดเจน เพื่อให้ผู้ส่งออก วางแผนและเจรจากับผู้นำเข้าได้ รวมทั้งค่าฟรีไทม์ (ช่วงเวลาที่ตู้คอนเทนเนอร์อยู่ในท่าเรือโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย) ขอให้สายการเดินเรือเจรจากับท่าเรือ เพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการ โดยกระทรวงพาณิชย์ จะทำหนังสือถึงบริษัทสายการเดินเรือเพื่อแจ้งข้อกังวลดังกล่าว รวมถึงการประกาศค่าเซอร์ชาร์จที่ชัดเจน


อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ ยังไม่เกิดความขาดแคลนของตู้คอนเทนเนอร์ และเรือขนส่งสินค้าเหมือนช่วงโควิด
แต่กระทรวงพาณิชย์ไม่ได้นิ่งนอนใจ เตรียมส่งหนังสือถึงการท่าเรือแห่งประเทศไทย กรมศุลกากร และกรมเจ้าท่าเพื่อ ให้ช่วยประเมินและ รวบรวมจำนวนตู้ทั้งส่งออกและนำเข้าทั้งหมด และจะติดตามประเมินสถานการณ์ตู้อย่างใกล้ชิดต่อไป