โจทย์เศรษฐกิจ…รอแก้ไข! ท้าทายรัฐบาลใหม่

Chonburi Province, Thailand - 25 Sep 2020, Asian Local People walk and shop seafood at the Angsila fish market, the large fresh market in Chonburi Province, Thailand.
  • ภาระการคลังที่เพิ่มขึ้น
  • การแบ่งโลกออกเป็นสองขั้ว
  • ครงสร้างประชากรไทยที่เปลี่ยนไป

ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ได้เผยแพร่บทความระบุว่า โจทย์เศรษฐกิจไทยหลังเลือกตั้งปี 66 มีทั้งประเด็นระยะสั้นและระยะกลางที่มีความท้าทายอย่างมากต่อเศรษฐกิจไทย โดยหากรัฐบาลใหม่สามารถดำเนินนโยบายเศรษฐกิจได้ตามที่หาเสียง ซึ่งโดยมากเน้นให้ความช่วยเหลือด้านรายได้แก่กลุ่มเปราะบาง การปรับขึ้นค่าแรง การบรรเทาภาระการครองชีพจากราคาพลังงานที่สูง ซึ่งต้องใช้งบประมาณจำนวนมาก และจะส่งผลบวกต่อ GDP ระยะสั้น แต่ก็จะมีโจทย์ภาระการคลังที่เพิ่มขึ้นตามมา เนื่องจากหากแหล่งเงินนั้นมาจากการจัดสรรงบประมาณใหม่ที่คงทำได้ในระดับหนึ่งแต่ไม่น่าจะเพียงพอ หรือใช้รายได้จากการจัดเก็บภาษีที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นก็ต้องรอระยะเวลาให้เศรษฐกิจขยายตัวเพิ่ม ซึ่งคงไม่ทันเวลาที่ต้องมีรายจ่าย 

ดังนั้น รัฐบาลใหม่คงเลี่ยงไม่ได้ที่จะเผชิญการขาดดุลงบประมาณที่เพิ่มขึ้น ซึ่งหากต้องขาดดุลงบประมาณสูงกว่าเดิมเพื่อดำเนินนโยบายเศรษฐกิจระยะสั้น ต้นทุนการก่อหนี้เพิ่มเติมจะมีภาระเพิ่มมากขึ้นในจังหวะที่ดอกเบี้ยนโยบายของไทยคาดว่าจะไปอยู่ที่ 2% ซึ่งการก่อหนี้เพิ่มมาก ๆ ของรัฐฯ อาจเป็นการแย่งทรัพยากรเงินทุนกับภาคเอกชน ดังนั้น รัฐฯ ต้องพิจารณากระจายการก่อหนี้ให้เหมาะสม มิเช่นนั้นจะเป็นการเพิ่มต้นทุนให้เอกชนในจังหวะเวลาที่เศรษฐกิจไทยกำลังฟื้นตัว

นอกจากนี้ ยังมีโจทย์ท้าทายที่สำคัญ ได้แก่ ประเด็นภูมิรัฐศาสตร์ที่เริ่มเห็นการแบ่งโลกออกเป็นสองขั้วชัดขึ้นอันจะมีผลต่อการลงทุนและอาจจะมีผลต่อทิศทางการส่งออกของไทยด้วย โครงสร้างประชากรไทยที่เปลี่ยนไปทั้งสังคมสูงอายุและประชากรที่ลดลงอันจะมีผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทยตั้งแต่ความน่าสนใจในฐานะแหล่งลงทุนไปจนถึงการเก็บรายได้ของรัฐบาล รวมถึงมาตรการด้านสิ่งแวดล้อมจากต่างประเทศซึ่งกลายเป็นมาตรการกีดกันทางการค้าที่ไม่ใช่ภาษีรูปแบบหนึ่งที่มีบทบาทมากขึ้นในเวทีการค้าโลก ทั้งหมดนี้ล้วนเป็นโจทย์ท้าทายของรัฐบาลใหม่ที่ต้องความเข้าใจและมองประเด็นอย่างครบถ้วนรอบด้าน วางนโยบายที่ครอบคลุมและแก้ปัญหาอย่างยั่งยืน ซึ่งคาดหวังจะเห็นการแสดงวิสัยทัศน์และบทบาทของรัฐบาลใหม่ในฐานะผู้นำต่อโจทย์ท้าทายดังกล่าวอย่างเหมาะสม

ทั้งนี้ ประเด็นที่นำเสนอเป็นการรวบรวมประเด็นด้านเศรษฐกิจของประเทศ ส่วนรายละเอียดอื่น ๆ คงต้องรอความชัดเจนในการแถลงนโยบายของคณะรัฐมนตรีใหม่ต่อไป