โฆษกรัฐบาลประกาศลั่น!เศรษฐกิจปรับตัวดีขึ้นหลังรัฐเก็บรายได้ 2.26 ล้านล้านบาท

นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า รัฐบาลสามารถจัดเก็บรายได้สุทธิในช่วง 11 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2565 (ตุลาคม 2564 – สิงหาคม 2565) จำนวน 2,256,250 ล้านบาท โดยเป็นจำนวนที่สูงกว่าประมาณการตามเอกสารงบประมาณ 117,898 ล้านบาท หรือ 5.5% และสูงกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน 6.8%

โดยกรมสรรพากรสามารถจัดเก็บรายได้รวม 1,867,250 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีงบประมาณก่อน 248,422 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 15.3% และสูงกว่าประมาณการ 14.6% หรือ 238,187 ล้านบาท เนื่องจากมีการขยายตัวของเศรษฐกิจ การบริโภค และมูลค่าการนำเข้า ที่ส่งผลให้ภาษีมูลค่าเพิ่ม และภาษีนิติบุคคลสูงกว่าประมาณการ

ในขณะที่ กรมสรรพสามิต จัดเก็บรายได้ในช่วง 11 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2565 อยู่ที่ 465,823 ล้านบาท ลดลงจากในช่วงเดียวกันของปีงบประมาณก่อน 28,730 ล้านบาท หรือลดลง 5.8% และต่ำกว่าประมาณการ 15% หรือ 82,253 ล้านบาท เนื่องจากการลดอัตราภาษีสรรพสามิตสำหรับน้ำมันดีเซล เพื่อช่วยบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนเป็นการชั่วคราวจากราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกปรับตัวสูงขึ้น

กรมศุลกากรจัดเก็บรายได้อยู่ที่ 100,894 ล้านบาท โดยมากกว่าช่วงเดียวกันจากปีงบประมาณก่อน 7,309 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 7.8% และสูงกว่าประมาณการ 9.5% หรือ 8,794 ล้านบาท

“จากผลการจัดเก็บรายได้ของรัฐบาลแสดงถึงสัญญาณทางเศรษฐกิจที่ปรับตัวดีขึ้น การกำหนดนโยบายที่สอดคล้อง สอดรับกับสถานการณ์ รวมทั้งตัวเลขการบริโภคและการท่องเที่ยวของไทยที่เริ่มกลับมาดีขึ้น หลังจากมีการเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศ ซึ่งส่งผลดีต่อการจัดเก็บรายได้ของรัฐบาล ทั้งนี้ รัฐบาลตระหนักดีถึงความท้าทายในปัจจุบันที่โลกและประเทศไทยกำลังเผชิญ และประเมิน ศึกษา หาแนวทางการดำเนินนโยบายที่เหมาะสมอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้สอดคล้องกับการพัฒนาทางเศรษฐกิจ และสังคม เพื่อวิถีชีวิตที่ดีขึ้นของพี่น้องประชาชน” นายอนุชากล่าว