โควิด-19 พ่นพิษ 9 เดือนแรกปีงบประมาณ 63 รัฐบาลขาดดุล 4.7 แสนล้านบาท

  • คิดเป็น 3.9% ของจีดีพีประเทศ
  • หลังดำเนินมาตรการทางภาษี

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กระทรวงการคลัง ระบุว่า ในช่วง 9 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2563 (ต.ค. 2562 – มิ.ย. 2563) ภาครัฐบาล ได้แก่ รัฐบาล กองทุนนอกงบประมาณ และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น มีรายได้ 2.34 ล้านล้านบาท ต่ำกว่าช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว 269,155 ล้านบาท หรือ 10.3% โดยเป็นผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) และความจำเป็นของรัฐบาลในการดำเนินนโยบายการคลังผ่านมาตรการทางภาษีเพื่อบรรเทาภาระให้แก่ประชาชนและเพิ่มสภาพคล่องให้แก่ผู้ประกอบการในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ด้วยการขยายเวลาการยื่นแบบแสดงรายการชำระภาษีต่าง ๆ ออกไปเป็นภายในเดือนก.ค. – ก.ย. 2563
และการลดอัตราภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่าย

สำหรับด้านรายจ่ายมีจำนวนทั้งสิ้น 2.95 ล้านล้านบาท สูงกว่าช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว 299,908 ล้านบาท หรือ 11.3% จากรายได้และรายจ่ายดังกล่าว ส่งผลให้ดุลการคลังภาครัฐบาลขาดดุล 614,389 ล้านบาท คิดเป็น 3.9% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ(จีดีพี)​ และดุลการคลังเบื้องต้นของภาครัฐบาล (Primary Balance) ขาดดุล 471,000 ล้านบาท คิดเป็น 3.0 %ของจีดีพี

ทั้งนี้ ฐานะการคลังในช่วง 9 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2563 เป็นข้อมูลสถิติที่ได้รับผลกระทบทางเศรษฐกิจจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 และผลการดำเนินนโยบายรายได้เพื่อแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจและสังคม ซึ่งเป็นห้วงระยะเวลาที่สถานการณ์ไม่เป็นปกติ จึงขอให้ระมัดระวังในการนำข้อมูลไปใช้ในการวิเคราะห์เปรียบเทียบกับช่วงสถานการณ์ปกติด้วย