แอสตร้าเซเนก้า คาดมีข้อมูลจากการทดลองวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 ขั้นปลายในอีกไม่กี่สัปดาห์หน้า

  • ผลกำไรไตรมาส 3 ลดลงต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาด
  • ค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นขณะที่ผู้ป่วยเข้ารับการตรวจในโรงพยาบาลลดลง
  • แต่ยอดขายเพิ่มขึ้น 3%จากยารักษามะเร็งปอด

สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า บริษัทแอสตร้าเซเนก้า ซึ่งเป็นผู้ผลิตยาของอังกฤษที่กำลังดำเนินการหนึ่งในวัคซีนโควิด-19 ชั้นนำของโลก แจ้งผลประกอบการไตรมาสที่ 3 ของปีนี้  ว่าผลกำไรในไตรมาสที่ 3  ลดลงต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้เนื่องจากค่าใช้จ่ายที่สูงเกินจริงของโรคระบาดและไม่สนับสนุนการเข้ารับการตรวจและวินิจฉัยของแพทย์

ทั้งกำไรต่อหุ้นลดลงเหลือ 0.94 ดอลลาร์ ซึ่งจกการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์จะอยู่ที่ 1 ดอลลาร์สหรัฐฯ  ซึ่งการแพร่ระบาดทำให้ผู้ป่วยบางรายงดเข้ารับการรักษาโรคที่ไม่ใช่โควิด -19 และบังคับให้โรงพยาบาลเลื่อนการผ่าตัดออกไป ผู้ผลิตยารายอื่นเช่น Novartis AG ของสวิตเซอร์แลนด์และ Novo Nordisk A / S ของเดนมาร์กก็อ้างถึงการหยุดชะงักที่คล้ายคลึงกัน

บริษัทแอสตร้าเซเนก้า ระบุว่าพร้อมที่จะประกาศข้อมูลจากการทดลองขั้นสูงสำหรับความร่วมมือกับมหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ดเกี่ยวกับวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 ที่มีศักยภาพในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า การอาจเป็นหนึ่งผู้พัฒนาวัคซีนรายแรก ๆ ที่ได้รับการอนุมัติจากทั่วโลกหากประสบความสำเร็จ โดบได้เริ่มการทดลองขั้นสุดท้ายสำหรับการรักษาแอนติบอดี

อย่างไรก็ตามยอดขายรวมของบริษัทได้เพิ่มขึ้น 3% เป็น 6,600  ล้านดอลลาร์ในไตรมาสที่แล้ว เนื่องจาdยารักษามะเร็งยังคงดำเนินต่อไปแม้จะหยุดชะงักก็ตาม ยารักษาโรคมะเร็งที่สำคัญเป็นไปตามประมาณการของนักวิเคราะห์โดยการรักษามะเร็งปอดทำรายได้ 1.2 พันล้านดอลลาร์

บริษัทระบุการเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลในประเทศจีนที่ชะลอตัวลงเนื่องจากไวรัสโควิด-19ส่งผลให้ยอดขาเครื่องช่วยหายใจลดลงซึ่งทำให้ยอดขายมนส่วนนี้ลดลง 12% ในไตรมาสนี้

กำไร- https://www.bloomberg.com/news/articles/2020-11-05/astrazeneca-third-quarter-profit-sags-as-covid-slows-diagnoses