โออาร์ เผยผลการดำเนินงานไตรมาส 1 ปี 67 มีรายได้ที่ 6,173 ล้านบาท เพิ่มขึ้นกว่า 100% จากไตรมาสก่อน เป็นการเพิ่มขึ้นจากทุกกลุ่มธุรกิจ OR มีกำไรสุทธิ 3,723 ล้านบาท คิดเป็นกำไรต่อหุ้น 0.31 บาท
- พร้อมเดินหน้าสู่การเป็น Data-Driven Organization ด้วยระบบ SAP S/4HANA
- ชูเทคโนโลยี-นวัตกรรมใหม่ ที่รวมฟังก์ชันในการบริหารจัดการธุรกิจพลังงานและค้าปลีก
นายดิษทัต ปันยารชุน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือ OR เปิดเผยถึงผลการดำเนินงานของบริษัทฯ ในไตรมาสแรกของปี 2567 ว่า บริษัทฯ มีกำไรสุทธิ จำนวน 3,723 ล้านบาท ปรับตัวดีขึ้นจากไตรมาสก่อนกว่า 100% โดยคิดเป็นกำไรต่อหุ้น 0.31 บาท
สำหรับ EBITDA ในไตรมาส 1 อยู่ที่ 6,173 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3,650 ล้านบาท หรือกว่า 100% เมื่อเทียบกับไตรมาส 4 ปี 2566 โดยเพิ่มขึ้นจากทุกกลุ่มธุรกิจ
ซึ่งกลุ่มธุรกิจ Mobility จากภาพรวมกำไรขั้นต้น เฉลี่ยต่อลิตรที่ดีขึ้น เช่นเดียวกับกลุ่มธุรกิจ Global ที่กำไรขั้นต้นเฉลี่ยต่อลิตร ฟื้นตัวในประเทศฟิลิปปินส์
สำหรับกลุ่มธุรกิจ Lifestyle เพิ่มขึ้นทั้งธุรกิจค้าปลีกอาหาร และเครื่องดื่ม และกลุ่มธุรกิจค้าปลีกอื่น แต่ภาพรวมของค่าใช้จ่ายดำเนินงานสุทธิลดลง
ทั้งนี้ ในไตรมาส 1 ที่ผ่านมา บริษัทฯ เสริมความแข็งแกร่ง ของธุรกิจไลฟ์สไตล์อย่างต่อเนื่อง เดินหน้ารุกธุรกิจสุขภาพและความงาม (Health & Beauty) โดยร่วมมือกับพันธมิตรทางธุรกิจ ทั้งในและต่างประเทศ ทั้งจากประเทศญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ โดยได้ปักหมุด เตรียมจะเปิดตัวร้านสาขาแรกในเร็วๆ นี้
นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังมุ่งมั่นในการปรับทิศทางการดำเนินธุรกิจ สู่การเปลี่ยนผ่านสู่สังคมคาร์บอนต่ำผ่านทาง platform ต่างๆ ของ OR ซึ่งครอบคลุม ทั้งในกลุ่มธุรกิจ Mobility และกลุ่มธุรกิจ Lifestyle
เพื่อมุ่งสู่เป้าหมาย ความเป็นกลางทางคาร์บอนในปี ค.ศ. 2030 และ Net Zero ปี 2050 ไม่ว่าจะเป็น การบุกเบิกด้านพลังงานแห่งอนาคต เพื่อตอบโจทย์การเปลี่ยนผ่าน ของการใช้พลังงาน
การพัฒนา Platform แห่งอนาคต เพื่อรองรับการเปลี่ยนผ่านทางพลังงาน และการใช้ชีวิตที่หลากหลาย และการผลักดันให้ห่วงโซ่คุณค่าของธุรกิจ สู่ความเป็น Green ตลอดทั้งระบบนิเวศน์ของ OR
นายดิษทัต กล่าวด้วยว่า นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังได้รับการจัดอันดับเครดิตองค์กรที่ระดับ “AA+” จากทริสเรทติ้ง (TRIS) ด้วยแนวโน้มอันดับเครดิตคงที่ (Stable) ต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 สะท้อนความสำเร็จ ด้วยผลการดำเนินงานที่โดดเด่นและฐานะทางการเงินที่แข็งแกร่งอีกด้วย
ในปีนี้ บริษัท ปลูกผักเพราะรักแม่ จำกัด (มหาชน) หรือ OKJ โดยทางบริษัทฯ เป็นผู้ถือหุ้น 20% ได้ยื่นแบบแสดงรายการข้อมูล และร่างหนังสือชี้ชวน (Filing) ต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์ และตลาดหลักทรัพย์ (สำนักงานก.ล.ต.)
เพื่อเสนอขายหุ้นเพิ่มทุน ต่อประชาชนทั่วไปครั้งแรก (IPO) ซึ่งแสดงให้เห็นถึงการเติบโต และความสำเร็จ ของพันธมิตรทางธุรกิจของบริษัทฯ โดยใช้ศักยภาพที่บริษัทฯ มีร่วมกับพันธมิตร ที่มีศักยภาพ ในการสร้างโอกาสทางธุรกิจร่วมกัน
สอดคล้องกับวิสัยทัศน์ของบริษัทฯ “เติมเต็มโอกาส เพื่อทุกการเติบโต ร่วมกัน” “Empowering All toward Inclusive Growth”
อย่างไรก็ตาม ล่าสุด บริษัทฯยังได้นำระบบ SAP S/4HANA เข้ามาส่งเสริมศักยภาพการทำงาน ทั้งภายในองค์กร และพันธมิตรทางธุรกิจ เพื่อเติบโตร่วมกันอย่างยั่งยืน และได้เริ่มใช้งานอย่างเป็นทางการ ไปเมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม 2567 ที่ผ่านมา
“นับเป็นก้าวสำคัญสำหรับ Digital Transformation Journey ของบริษัทฯ ที่ช่วยขับเคลื่อนการทำธุรกิจขององค์กรด้วยข้อมูล (Data-Driven Organization) ถือเป็นสร้างประวัติศาสตร์ ในการนำนวัตกรรมใหม่ล่าสุดของ SAP ที่รวมฟังก์ชันในการบริหารจัดการธุรกิจพลังงาน และค้าปลีกไว้ด้วยกัน เข้ามาใช้เป็นประเทศแรก ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เพิ่มความสามารถทางการแข่งขัน รองรับการเติบโตทางธุรกิจในอนาคตอย่างยั่งยืน” นายดิษทัต กล่าว
บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือ OR
ข่าวที่เกี่ยวข้อง : โออาร์ ตอกย้ำสินค้า “ไทยเด็ด…การันตีของเด็ด จากชุมชน”
