แบงก์ชาติยันเศรษฐกิจไทยเดือน ม.ค. 67 ฟื้นตัว

ธปท.ยันเศรษฐกิจไทยเดือน ม.ค. 67 ฟื้นตัวดีขึ้น แต่ยังขยายตัวในระดับต่ำ รับอานิสงส์ท่องเที่ยว-ส่งออก ช่วยหนุน แจงจับตาเครื่องยนต์เศรษฐกิจหลังแรงส่งยังไม่เสถียร

  • ยังขยายตัวในระดับต่ำ 
  • รับอานิสงส์ท่องเที่ยว-ส่งออก  
  • จับตาเศรษฐกิจหลังไม่เสถียร

นางสาวชญาวดี ชัยอนันต์ ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายองค์กรสัมพันธ์ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ขณะนี้พบว่าเศรษฐกิจไทยในเดือน ม.ค.  67 ปรับดีขึ้นจากเดือนก่อนหน้า แต่โดยรวมการขยายตัวยังอยู่ในระดับต่ำ โดยการท่องเที่ยวยังขยายตัวได้อย่างต่อเนื่อง จากจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้าไทย จำนวน 3.04 ล้านคน ตามจำนวนนักท่องเที่ยวลาว ยุโรป ไม่รวมรัสเซีย และอินเดีย โดยจำนวนนักท่องเที่ยวในบางสัญชาติ อาทิ จีนและมาเลเซีย ชะลอลงบ้าง ส่วนหนึ่งเพื่อรอเที่ยวช่วงเทศกาลตรุษจีนในเดือน ก.พ. ขณะที่รายรับภาคการท่องเที่ยวที่ขจัดปัจจัยฤดูกาลแล้วเพิ่มขึ้นมากจากเดือนก่อน ตามจำนวนนักท่องเที่ยว และจำนวนวันพักเฉลี่ยที่เพิ่มขึ้น สอดคล้องกับการเพิ่มขึ้นของสัดส่วนนักท่องเที่ยวระยะยาวต่อนักท่องเที่ยวระยะสั้น

ทั้งนี้ ในส่วนของส่งออกสินค้าปรับดีขึ้นหลังจากที่หดตัวในเดือนก่อน ในหลายหมวดสินค้าโดยเฉพาะ 1. สินค้าเกษตร ตามการส่งออกข้าวขาวไปยังอินโดนีเซีย ส่วนหนึ่งได้รับผลดีจากมาตรการระงับการส่งออกข้าวของอินเดีย 2. สินค้าอิเล็กทรอนิกส์ จากการส่งออกอุปกรณ์สื่อสารไปฮ่องกงและสหภาพยุโรป และ 3. ผลิตภัณฑ์เคมีและเคมีภัณฑ์ ตามการส่งออกผลิตภัณฑ์เคมีไปยังอินเดียและญี่ปุ่น แม้การส่งออกปิโตรเคมีไปจีนยังลดลงต่อเนื่อง ขณะที่การส่งออกในบางหมวดปรับลดลง อาทิ รถยนต์นั่งส่วนบุคคลและรถยนต์เชิงพาณิชย์ไปอาเซียนโดยเฉพาะเวียดนามและมาเลเซีย น้ำมันดีเซลไปอาเซียน และชิ้นส่วนประกอบแผงเซลล์แสงอาทิตย์ (solar cell) ไปสหรัฐฯ

นอกจากนั้นในส่วนของการผลิตภาคอุตสาหกรรมหดตัวน้อยลง แต่หลายอุตสาหกรรมยังถูกกดดันจากอุปสงค์โลกที่ฟื้นตัวช้า สินค้าคงคลังที่อยู่ในระดับสูง และปัจจัยเชิงโครงสร้าง ด้านการลงทุนภาคเอกชนทยอยปรับดีขึ้น และการบริโภคภาคเอกชนและเศรษฐกิจในภาคบริการยังขยายตัวได้ตามรายรับในภาคการท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้น ส่วนการใช้จ่ายภาครัฐหดตัวจากรายจ่ายลงทุนและรายจ่ายประจำของรัฐบาลกลาง ตาม พ.ร.บ. งบประมาณปี 2567 ที่ล่าช้า ส่วนการลงทุนของรัฐวิสาหกิจขยายตัว ตามการเบิกจ่ายในโครงการด้านคมนาคมและพลังงาน

“ภาพรวมในเดือน ม.ค. 2567 ดีขึ้นจากเดือน ธ.ค. 2566 แต่ยังมีปัจจัยที่ต้องจับตามอง แม้ว่าแนวโน้มจะปรับดีขึ้นมาจริง แต่ก็ยังเป็นการขยายตัวได้ในระดับต่ำ ดังนั้นแรงส่งต่าง ๆ ยังไม่คล่องตัวมากนัก มีหลายปัจจัยที่ต้องจับตามอง แม้กระทั่งการผลิตภาคอุตสาหกรรมที่ตอนนี้อาจจะไม่ลงต่อ อยู่ในช่วงพักฐานแล้ว แต่ก็ต้องดูว่าจะกลับไปลงต่อหรือไม่ ตรงนี้น่าจะเป็นจุดเปลี่ยนผ่านที่สำคัญ แต่ถ้าเทียบกับช่วงก่อนหน้าก็ถือว่าดีขึ้นบ้าง แต่ยังขยายตัวต่ำกว่าคาด ขณะที่รายรับจากการท่องเที่ยวถือว่าขยายตัวได้ดีกว่าคาด” นางสาวชญาวดี กล่าว

สำหรับเสถียรภาพเศรษฐกิจ อัตราเงินเฟ้อทั่วไปลดลงจากทุกหมวดหลัก โดยเฉพาะหมวดอาหารสดจากราคาผักและผลไม้ที่ผลผลิตออกสู่ตลาดมากขึ้น หมวดพลังงานลดลงจากผลของฐานสูงปีก่อน ขณะที่อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานลดลงเล็กน้อยตามราคาอาหารสำเร็จรูปจากผลของฐานสูงในปีก่อน ด้านตลาดแรงงานปรับแย่ลง โดยการจ้างงานในภาคการผลิตโดยเฉพาะที่เกี่ยวเนื่องกับการส่งออกยังคงลดลง และเริ่มเห็นการลดลงของการจ้างงานในภาคบริการบางสาขา สำหรับดุลบัญชีเดินสะพัดขาดดุลตามดุลการค้าเป็นสำคัญ แม้ดุลบริการ รายได้ และเงินโอนกลับมาเกินดุล