เล็งรื้อระเบียบ18ฉบับฟื้นกฎรัฐสภาใหม่

นายสรศักดิ์ เพียรเวช เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่มีผู้มีความหลากหลายทางเพศ 2 คน จูบปากกันเพื่อแสดงสัญลักษณ์ ภายหลังจากการแถลงข่าวของ คณะกรรมาธิการกิจการเด็ก เยาวชน สตรี ผู้สูงอายุ ผู้พิการ กลุ่มชาติพันธุ์ และผู้มีความหลากหลายทางเพศว่า โดยส่วนตัวแล้วเห็นว่า เป็นเรื่องที่ไม่เหมาะสม รับไม่ได้ แต่เบื้องต้นตามระเบียบไม่มีการกำหนดบทลงโทษไว้ชัดเจนในกรณีนี้แต่มอบหมายให้สำนักประชาสัมพันธ์ทำรายงานส่งต่อประธานสภาผู้แทนราษฎรทันทีเมื่อวานนี้ โดยประธานสภาผู้แทนราษฎรสั่งการให้คณะกรรมาธิการกิจการเด็ก เยาวชน สตรี ผู้สูงอายุ ผู้พิการ กลุ่มชาติพันธุ์ และผู้มีความหลากหลายทางเพศ ทำรายงานชี้แจงข้อมูลรายละเอียดทั้งหมด เพื่อพิจารณาว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป

“สภาผู้แทนราษฎรมีระเบียบเกี่ยวกับการแถลงข่าวตั้งแต่สมัยนายชัย ชิดชอบ เป็นประธานสภาผู้แทนราษฎร โดยมีหลักการให้สมาชิกและอดีตสมาชิกใช้พื้นที่แถลงข่าวได้ ต่อมามีแนวคิดจะปรับปรุงแก้ไขเพิ่มเติมในยุคสภานิติบัญญัติแห่งชาติ หรือ สนช. แต่ ที่สุดก็ยังไม่มีการแก้ไขเพิ่มเติมระเบียบ จนขณะนี้ทางสำนักเลขธิการสภาผู้แทนราษฎรได้มอบหมายให้ฝ่ายกฎหมายตั้งทีมเพื่อปรับปรุงแก้ไขระเบียบต่างๆ 18 ฉบับ

ซึ่งเรื่องการแถลงข่าวก็เป็นหนึ่งในระเบียบที่ต้องมีการปรับปรุงแก้ไขให้เหมาะสมตามสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไป ให้สอดคล้องกับรัฐธรรมนูญและข้อบังคับการประชุมฉบับปัจจุบัน โดยจะพิจารณาว่า นอกจากจะให้สิทธิ์แก่สมาชิกหรืออดีตสมาชิกหรือไม่แล้วนั้น ก็จะมีการพิจารณาว่า ควรมีการกำหนดบทลงโทษด้วยหรือไม่ หากมีการแถลงข้อมูลที่ไม่ใช่ข้อเท็จจริง หรือไม่เหมาะสม โดยจะใช้เวลาประมาณ 2 เดือนเพื่อจัดทำระเบียบฉบับใหม่ โดยจะนำรายละเอียดเสนอต่อประธานสภาผู้แทนราษฎรอีกครั้งหนึ่ง” นายสรศักดิ์ กล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่า จะมีแนวคิดที่จะจัดอบรมทำความเข้าใจ ส.ส.สมัยแรก เกี่ยวกับธรรมเนียมปฏิบัติหรือไม่นั้น นายสรศักดิ์กล่าวว่า สํานักเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรได้จัดอบรมไปแล้วครั้งหนึ่ง สมัยยังใช้ห้องประชุมที่สำนักงานใหญ่ ทีโอที แจ้งวัฒนะ แต่ไม่มีการอบรมเกี่ยวกับการแถลงข่าว แต่ยืนยันว่าจะจัดทำระเบียบฉบับใหม่ให้เร็วที่สุด โดยระหว่างนี้ก็กำชับให้เจ้าหน้าที่ประชาสัมพันธ์ เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย ดูแลการแถลงข่าวพร้อมบันทึกเทป ส่วนกรณีในอดีต อย่างเช่น กรณี นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคไทยศรีวิไลย์ นำสารประกอบวัตถุระเบิดมาแถลงข่าว สถานีตำรวจนครบาลบางโพก็ดำเนินการตามกฎหมายแล้ว ส่วนเหตุการณ์เมื่อวานนี้ยังไม่ถึงขั้นเอาผิดตามกฎหมาย ซึ่งทางคณะกรรมาธิการก็ได้ขอโทษมาแล้ว