เมื่อ “อนาคต”มาเร็วกว่าที่คิด

หากถามนักธุรกิจว่าโควิด-19 ทำให้ธุรกิจของเขาเปลี่ยนไปหรือไม่และเปลี่ยนไปอย่างไร

ส่วนใหญ่พูดตรงกันว่า ผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19  และความพยายามที่จะป้องกันการระบาดของโรค ด้วยการ ”เว้นระยะห่างทางสังคม ทำงานที่บ้าน หรือทำงานในที่ต่างๆ โดยไม่ต้องเข้าที่ทำงานมากขึ้น ลดการพบปะกันเท่าที่มีความจำเป็น ให้ความสำคัญกับการรักษาสุขลักษณะ และรักษาสุขภาพมากขึ้น” 

หรือที่เราเรียกรวมๆ กันว่า “วิถีชีวิตใหม่” หรือ New normal 

นอกเหนือจากการสร้างความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ให้กับสังคมไทยแล้วยังสร้างการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจไทยค่อนข้างมากอีกด้วย

โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเปลี่ยนแปลงแนวคิดและการใช้เทคโนโลยีเข้ามามีส่วนรวมในการทำธุรกิจจากเดิมที่เทคโนโลยีมักจะเกี่ยวพันกับการผลิตขนาดใหญ่แต่วันนี้เทคโนโลยีถูกนำมาใช้ในทุกภาคส่วนของเศรษฐกิจทั้งการค้าขายการทำธุรกรรมการเงินหรือการใช้ชีวิตประจำวัน

โควิด-19 ทำให้เศรษฐกิจและสังคมเหมือนถูกฟาสต์ฟอร์เวอร์ด” (fast-forward) หรือถูกเร่งเครื่องยนต์ให้สิ่งที่คาดว่าจะเกิดขึ้นใน 5 ปีข้างเกิดขึ้นภายในระยะเวลาไม่ถึง 10 เดือนนับตั้งแต่ปลายปีที่ผ่านมา

หลายส่วนของเศรษฐกิจไทย ได้ปรับตัวเข้าสู่ “เศรษฐกิจฐานดิจิทัล” รวดเร็วกว่าที่หลายคนคิดไว้ 

โควิด-19 เข้ามาช่วยตัดสินใจให้กับหลายธุรกิจว่าต้องกล้าที่จะเดินเข้าไปสู่โลกดิจิทัลและปรับตัวสู่เทคโนโลยีเดี๋ยวนี้ไม่ต้องรีรออีกแล้ว!!

ก่อนโควิด-19 เมื่อประมาณ 10 เดือนก่อน หากบอกว่า “โลกจะเข้าสู่การค้าขายออนไลน์ การซื้อขายด้วยการสั่งสินค้าผ่านแอปพลิเคชั่น หรือช่องทางโซเชียล มากกว่าการออกไปเดินซื้อของที่จับต้องของได้จริง” 

หลายคนจะตอบเป็นเสียงเดียวกันว่า เรื่องดังกล่าวอาจจะเกิดขึ้นได้จริงก็ได้ แต่ในอีกหลายปีข้างหน้า และอาจจะไม่ได้รับการยอมรับจาก “ผู้สูงอายุ” หรือ คนที่ไม่เชี่ยวชาญคอมพิวเตอร์ 

แต่วันนี้ธุรกกรมการสั่งซื้อสินค้าออนไลน์เพิ่มขึ้นหลายร้อยเปอร์เซนต์ในช่วงไม่กี่เดือน  

ขณะเดียวกัน การเกิดขึ้นของตลาดสินค้าออนไลน์แบบบ้านๆ หรือ Marketplace กลุ่มการศึกษา และกลุ่มอาชีพ ต่างๆ รวมทั้งปรากฎการณ์ “หม้อทอดลมร้อน หม้อทอดไร้น้ำมัน” ได้ช่วยทำให้ “คนสูงอายุ” เข้าใจการซื้อ และการขายแบบออนไลน์มากขึ้น 

และไม่กี่วันนี้ เราพบว่า คุณแม่ คุณยาย หลายๆท่าน สนุกสนานกับการชอปกระจายในมหกรรมลดราคาสินค้าออนไลน์ 9 เดือน 9 และกำลังไถฟีดรัวๆ รอ 10 เดือน 10 อย่างใจจดใจจ่อ ขณะที่ “แม่ค้า”สูงอายุ ที่ขายสินค้าออนไลน์เพิ่มขึ้นเร็วมากเช่นกัน

ขณะเดียวกัน เมื่อมีการซื้อขายก็ต้องมีการจ่ายเงิน เช่นเดียวกัน จากที่ใครๆ บอกว่า “สังคมไร้เงินสด” คงจะไม่เกิดกับคนไทยง่ายๆ  ผลจากการซื้อขายสินค้าออนไลน์ และการใช้แอพพลิเคชั่นกระเป๋าสตางค์อิเลกทรอนิกส์ต่างๆ เพื่อรับสิทธิประโยชน์จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจหลายๆ มาตรการของรัฐ 

ทำให้คนทุกระดับ รู้จักใช้ “บัตรอิเลกทรอกนิกส์” และช่องทางการชำระเงินทางอิเลกทรอนิกส์มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นพร้อมเพย์ อินเตอร์เน็ต แบงก์กิ้ง หรือโมบาย แบงกกิ้งต่างๆ

โดยหากเทียบกับไม่กี่ปีก่อนหน้่านี้การชำระเงินผ่านระบบอิเลกทรอนิกส์เพิ่มมากขึ้นหลายร้อยเปอร์เซนต์เช่นกันและเรากำลังจะได้ใช้ระบบความปลอดภัยในการทำธุรกรรมทางการเงินผ่านการสแกนใบหน้าฝ่ามือรวมทั้งการขอสินเชื่อแบบตัวต่อตัวผ่านระบบบล็อกเชน

นอกจากนั้น โควิด-19 ยังเร่งให้ “การคิดค้นพัฒนา” ในแง่มุมต่างๆ รวดเร็วขึ้น โดยเฉพาะในด้านการแพทย์ และสาธารณสุข ซึ่งประเทศไทยสามารถได้ประโยชน์สูงสุด หากเราสามารถช่วงชิงการเป็น “ศูนย์กลางทางการแพทย์” ทั้งสมัยใหม่และแพทย์แผนไทยในภูมิภาคนี้ไว้ได้

ขณะที่การพัฒนาความสามารถของระบบสื่อสารหรือการประชุมทางไกลบนทุกแพลตฟอร์มพัฒนาอย่างรวดเร็วมากจากที่เคยเตาะแตะหรือใช้การประชุมทางไกลในบางสายงานเช่นการแพทย์ในวันนี้การประชุมทางไกลไปจนถึงการสัมมนาทางไกลเป็นรูปแบบที่เกิดขึ้นได้ง่ายและสะดวก

กลายเป็นช่องทางการสื่อสารตั้งแต่การทำงานระดับชาติการทำงานธุรกิจลงไปจนถึงการประชุมกลุ่มเพื่อนหรือครอบครัวและอีกไม่นานเราจะสามารถสื่อสารผ่านโฮโลแกรรมที่เปรียบเสมือนมานั่งคุยยืนคุยกันหรือทำกิจกรรมกันข้างๆเหมือนในหนังวิทยาศาสตร์มากขึ้นทุกทีที่จะตอบรับความสัมพันธ์ที่เว้นระยะห่างมากขึ้น

ดังนั้นเมื่ออนาคตเข้าใกล้และเร็วกว่าที่เราคิดคงไม่มีใครแปลกใจถ้าการพัฒนาระบบ 5 จีรวมทั้งอินเตอร์เน็ตออฟธิงที่เครื่องใช้ในบ้านจะถูกเชื่อมโยงความอัจจริยะหรือแม้กระทั่งการกำเนิดของหุ่นยนต์รับใช้จะมีความเป็นไปได้มากขึ้นเร็วขึ้นและปังขึ้น

แล้วธุรกิจจะต้องเปลี่ยนรูปแบบไปอย่างไรคนที่อยู่รอดได้จะต้องเป็นคนที่เข้าสู่โลกดิจิทัลจริงหรือ

คนที่ยังอยู่ในโลกออฟไลน์ จะทำอย่างไรให้อยู่ต่อได้ ทำอย่างไรให้คนออกนอกบ้านเพื่อที่จะเข้ามาซื้อสินค้า หรือรับบริการของคุณ ดังนั้น การบริการ คุณภาพสินค้า ความสะอาด ถูกสุขอนามัย หรือการใส่ใจลูกค้า ความสะดวกและรวดเร็ว จะต้องถูกยกระดับให้สูงขึ้นตอบสนองความพึงพอใจ ทดแทนการดำเนินธุรกิจสไตล์เดิมๆ 

ขณะที่การเพิ่มเติมเทคโนโลยี รวมทั้ง การเสะหาธุรกิจใหม่ๆ ที่ตอบโจทย์ชีวิตวิถีใหม่ ยังเป็นคำตอบที่ธุรกิจทั้งในออนไลน์และออฟไลน์ต้องเร่งดำเนินการ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในช่วงที่รัฐบาลพยายามหาแหล่งเงินให้ สำหรับธุรกิจที่ต้องการปรับตัว ปรับธุรกิจ

ที่สำคัญกว่านั้นการทำธุรกิจในโลกใหม่ภูมิคุ้มกันจะเป็นเรื่องที่สำคัญมากการมีเบาะลมในทุกด้านโดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านเงินออมและการลดต้นทุนรวมทั้งเตรียมมาตรการในด้านต่างๆเพื่อลดแรงกระแทกแบบเร่งด่วนของสถานการณ์ที่ไม่คาดคิดที่อาจจะเกิดบ่อยขึ้นเร็วขึ้นและแรงขึ้น

มองให้ไกลคิดให้ไวและทำให้ไวด้วยเช่นกันเพราะวันนี้อนาคตที่คาดว่าจะเกิดขึ้นใน 5 ปีกำลังเกิดขึ้นในปีนี้ปีหน้าถ้าเราช้าปรับตัวไม่ได้หรือไม่อยากปรับตัวทางออกทางรอดอาจจะน้อยลง 

และเอาเข้าจริงๆการปรับตัวไม่ได้ยากหรือลำบากอย่างที่เราคิดเพราะเทคโนโลยีที่ดีจะช่วยให้ทุกอย่างง่ายขึ้นบางครั้งบางทีอาจจะง่ายและดีกว่าระบบเก่าที่เราไว้ใจและคุ้นเคยเลยก็ได้