“เพื่อไทย” โต้ “สุพัฒนพงษ์” โยนบาปปัญหาหนี้ครัวเรือนให้รัฐบาลยิ่งลักษณ์

  • ยันหนี้ครัวเรือนต่อจีดีพีสูงกว่า80%ครั้งแรกหลังรัฐประหาร
  • เพิ่มขึ้นสูงสุดเป็นประวัติการณ์ถึง 90.1% ในปี 2564

นายชนินทร์ รุ่งธนเกียรติ รองโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า กรณีนายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พลังงาน ระบุว่า ประเทศไทยมีหนี้ครัวเรือนต่อผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ(จีดีพี)สูงเกินกว่า 80% มาตั้งแต่สมัยรัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตรนั้น ถือเป็นการให้ข้อมูลที่คลาดเคลื่อนจากความเป็นจริง เนื่องจากการบริหารราชการในสมัยนั้น แม้จะต้องมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจภายหลังสถานการณ์น้ำท่วมใหญ่ แต่ยังยึดมั่นในการควบคุมสัดส่วนหนี้ครัวเรือนต่อจีดีพีให้ไม่เกิน 80% ซึ่งเป็นระดับยั่งยืนตามมาตรฐานของธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.)มาตลอด

ทั้งนี้ข้อเท็จจริงคือ สัดส่วนหนี้ครัวเรือนต่อจีดีพีสูงกว่า 80% ครั้งแรก เกิดขึ้นในปี 2558 ภายหลังมีการทำรัฐประหาร และส่งผลต่อการส่งออกที่หดตัวลง สถานการณ์หนี้ย่ำแย่จนต้องมีโครงการคลีนิกแก้หนี้ในปี 2560 ซึ่งสถานการณ์ควรดีขึ้น แต่ด้วยการบริหารงานของรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา หนี้ครัวเรือนต่อจีดีพี กลับเพิ่มขึ้นสูงสุดเป็นประวัติการณ์ถึง 90.1% ในปี 2564 และยังไม่สามารถแก้หนี้ให้ประชาชนได้จนปัจจุบันโดยในปี 2565 หนี้ครัวเรือนต่อจีดีพียังอยู่ที่ 86.8% ซึ่งเป็นระดับที่ยังต้องเฝ้าระวัง