เป็นสิ่งมิควรกระทำ “ศรีสุวรรณ” มาแล้ว! ส่งคำร้องสอบสวนลงโทษ ส.ส.ดูภาพโป๊ในสภาฯ

  • ลั่นข้อแก้ตัวดังกล่าวฟังไม่ขึ้น เนื่องจากหลักฐานชัดเจน
  • แนะหากอยากดูภาพมากหรือทนไม่ได้ ก็ควรรีบเข้าห้องน้ำ ไปดูคนเดียว
  • รอดูผลสอบสวน จะเป็นตัวพิสูจน์ให้เห็นมาตรฐานทางจริยธรรมของสภา

นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย เปิดเผยว่า ตามที่สื่อมวลชนได้รายงานว่า มีสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (..) พรรคพลังประชารัฐ .ชลบุรี ถูกถ่ายภาพขณะดูรูปผู้หญิงเปลือยอก จากโทรศัพท์มือถือระหว่างร่วมประชุมการอภิปรายตัดลดงบประมาณประจำปี 2564 ในสภาผู้แทนราษฎร โดยภาพดังกล่าวถูกเผยแพร่ในกลุ่มสื่อมวลชนที่ติดตามทำข่าวการประชุมสภาช่วงค่ำของวันที่ 16 .. 2563 ที่ผ่านมานั้น

ทั้งนี้สมาคมฯจึงได้ส่งคำร้องเรียนไปยังประธานสภาผู้แทนราษฎร เพื่อสอบสวนลงโทษ แม้ ..รายดังกล่าว จะออกมาภาคเสธว่า ภาพไม่เหมาะสมที่ปรากฏเป็นข่าวเป็นภาพที่ได้รับจากข้อความที่บุคคลในภาพซึ่งเขาไม่เคยรู้จักมาก่อนส่งมาหาทางโทรศัพท์มือถือ โดยก่อนที่จะปรากฏภาพดังกล่าว มีข้อความส่งมาก่อนว่ากำลังได้รับความเดือดร้อน และต้องการความช่วยเหลือ โดยตนได้แลกเปลี่ยนบทสนทนากับบุคคลในภาพประมาณ 4-5 ข้อความก็ตาม

ข้อแก้ตัวดังกล่าวฟังไม่ขึ้น เนื่องจากหลักฐานในภาพถ่ายดังกล่าว อยู่ในโหมดหน้าจอโทรศัพท์มือถือแสดงสถานะว่าเป็น Keep Memo โดยเป็นรูปหญิงสาวเปลือยอก และโชว์อวัยวะเพศด้านขวามือของโทรศัพท์ พร้อมกับมีการพิมพ์ข้อความพูดคุยบนหน้าจอในกรอบสีเขียวด้านขวามือขอจอภาพด้วย นั่นแสดงว่า ..รายดังกล่าวส่งภาพและข้อความไปยังมือถือของบุคคลอื่น มิใช่กล่าวอ้างว่า มีคนส่งมาให้เพื่อขอความช่วยเหลือ แต่อย่างใด” นายศรีสุวรรณกล่าว

ทั้งนี้เหตุดังกล่าว เกิดขึ้นในพื้นที่ห้องประชุมชองสภาผู้แทนราษฎร อันเป็นสถานที่ทรงเกียรติและศักดิ์สิทธิ์ อันชี้ให้เห็นว่า ..รายดังกล่าวไม่ให้การเคารพสถานที่อันเป็นสถานที่ประชุมทางนิติบัญญัติของตัวแทนประชาชนทั้งประเทศแต่อย่างใด ซึ่งหากอยากดูภาพประเภทดังกล่าว หรือหากทนไม่ได้ก็ควรรีบเข้าห้องน้ำในรัฐสภาไปเปิดดูคนเดียว ให้เสร็จกิจเสีย มิต้องมาให้ผู้อื่นหรือสื่อมวลชนเห็นอันสร้างความเสื่อมเสียให้เกิดขึ้นกับองค์กรโดยภาพรวม

อย่างไรก็ตาม พฤติการณ์ดังกล่าวถือได้ว่าเป็นการฝ่าฝืนมาตรฐานทางจริยธรรมฯ 2561 ข้อ 17 ข้อ 20 และข้อ 21 ตามที่รัฐธรรมนูญ 2560 .291 วรรคสอง ได้บัญญัติไว้ ที่กำหนดไว้ว่า “ไม่กระทําการใดที่ก่อให้เกิดความเสื่อมเสียต่อเกียรติศักดิ์ของการดํารงตําแหน่ง” ซึ่งกรณีดังกล่าวเป็นหน้าที่ของคณะกรรมการจริยธรรมของสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งมีรองประธานสภาฯ เป็นประธานในการสอบสวนลงโทษตามครรลองของกฎหมาย ซึ่งแม้จะเป็น ..พรรคฝ่ายรัฐบาลก็จะต้องดำเนินการเอาผิดและลงโทษมิให้เป็นเยี่ยงอย่างต่อไป แต่หากมีการช่วยเหลือกันโดยสรรหาข้ออ้างมาช่วยเหลือกัน ก็จะเป็นการชี้ให้เห็นถึงมาตรฐานทางจริยธรรมของสภาฯทั้งหมดว่าเป็นเช่นใด