ธ.ก.ส.เผย ลูกค้าเริ่มปรับตัวสู่ ดิจิทัล แบงก์กิ้งเกินครึ่งหลังเกิดโควิด

  • มีธุรกรรมเกิดขึ้นเดือนละ 40-50 ล้านรายการ
  • พัฒนาระบบสินเชื่อดิจิทัล ให้อสม.กู้เงิน 2 หมื่นบาทต่อราย

นายธนารัตน์ งามวลัยรัตน์ ผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) กล่าวว่า ปัจจุบันมีลูกค้าของธนาคารลงทะเบียนในแอปพลิเคชัน โมบาย แบงก์กิ้ง (Application Mobile Banking) ประมาณ 2.7 ล้านราย มีธุรกรรมที่เกิดขึ้นเดือนละ 40-50 ล้านรายการ ซึ่งผลมาจากการแพร่ระบาดของโควิด ที่จะต้องมีการเว้นระยะห่าง หรือ Social distancing ซึ่งส่วนใหญ่เป็นเรื่องของการโอนเงิน อย่างไรก็ตาม ลูกค้าที่ ยังใช้บริการสม่ำเสมอมีประมาณ 1 ล้านราย เนื่องจากกลุ่มลูกค้ากลุ่มนี้เป็นลูกค้าเงินฝาก ซึ่งอาจจะคุ้นเคยทำธุรกรรมโอนเงินได้ ก็เป็นอีกช่องทางหนึ่งที่เราทำมา 3 -4 ปีแล้ว สุดท้ายตอบโจทย์ลดการที่ลูกค้าต้องมาที่สาขา

ดังนั้นจึงทำให้ตัวเลขการทำธุรกรรมผ่านเคาเตอร์ของธนาคารประมาณ 50 % และผ่านระบบออนไลน์ประมาณ 50% ในส่วนของลูกค้าที่ใช้บริการผ่านเคาเตอร์ เป็นเพราะลูกค้ายังไม่คุ้นเคยกับออนไลน์ โดยส่วนใหญ่เป็นลูกค้าระดับอายุ 50 ปีขึ้นไปและลูกค้าสินเชื่อที่เป็นเกษตรกรเป็นส่วนใหญ่

ส่วนตัวเลขการทำธุรกรรมด้วยระบบดิจิทัล เซอร์วิส ของธกส. จากข้อมูล ณ สิ้นเดือนกรกฎาคมนี้ มีลูกค้าที่สมัครโมบาย แบงก์กิ้งของธนาคาร ซึ่งธนาคารเรียกว่า A-Mobile มียอดสะสมของคนที่สมัครเข้าระบบ 2.73 ล้านราย มีการทำธุรกรรมผ่าน A-Mobile เช่น การโอนเงิน การเติมเงิน การโอนเงินผ่าน promtpay ,การชำระ bill payment และการฝากสลากออมทรัพย์ของธกส. รวมเฉลี่ย 1.66 ล้านราย/เดือน

สำหรับบัตรอิเล็กทรอนิกส์ ของธนาคาร ปัจจุบันมีบัตร ATM อยู่ 8.6 ล้านใบ ,บัตรเดบิต 1.37 ล้านใบ และบัตรเกษตรสุขใจ (คล้ายบัตรเดบิตที่ให้กับเกษตรกรตามนโยบายรัฐบาล) 1.2 ล้านใบ

ส่วนตู้ ATM มีจำนวน 2,000 เครื่องอยู่ในอันดับที่ 8 ในระบบสถาบันการเงิน และปีนี้ยังไม่มีนโยบายเพิ่มตู้ แต่จะอาศัยความร่วมมือกับธนาคารอื่นๆในการเข้าร่วมใช้บริการ นอกจากนั้นธนาคารยังมีบริหารชำระค่าสินค้าและบริการผ่านการสแกน QR-Code ซึ่งมีหน่วยงานที่ขึ้นทะเบียนใช้ QR Code กับ ธกส. 417 แห่ง ,เป็นร้านค้า 23,300 ร้านค้า และ เป็นร้านค้า OTOP จำนวน 12,100 ร้านค้า

นอกจากนี้ธนาคารได้พัฒนาระบบสินเชื่อดิจิทัล หรือ Digital Lending โดยนำร่องในกลุ่มลูกค้าที่เป็นสมาชิก อสม.ที่มีบัญชีเงินฝากกับธนาคาร เริ่ม 1 ต.ค.นี้ โดยสามารถกู้สินเพื่อใช้จ่ายในกรณีจำเป็น รายละไม่เกิน 20,00 บาท อัตราดอกเบี้ย 6.5% ต่อปี หลังจากนี้จะขยายไปยังกลุ่มลูกค้าที่ซื้อสลากออมทรัพย์ของธนาคาร โดยใช้สลากเป็นหลักทรัพย์ค้ำประกัน กู้ได้ 90 % ของมูลค่าสลาก และรวมถึงแผนการให้สินเชื่อ ดิจิทัลกับลูกค้ากลุ่มที่มีประวัติการชำระหนี้ที่ดีกับธกส. วงเงินรายละไม่เกิน 50,000 บาท