เปิด 10 ข้อเสนอ พัฒนาตลาดทุนไทยให้ยั่งยืนในอนาคต

ตลาดหุ้น ไทย
ภาวะตลาดหุ้นไทย
  • กองทุนพัฒนาตลาดทุน ร่วมกับ McKinsey รายงานสมุดปกขาว
  • ตลาดทุนไทย เป็นกลไกหลักสำคัญในการพัฒนาขับเคลื่อนประเทศ
  • มีศักยภาพการแข่งขัน เป็นแหล่งเงินทุนระยะยาว แหล่งความรู้ด้านการออมการลงทุน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กองทุนส่งเสริมการพัฒนาตลาดทุน (CMDF) ได้ร่วมกับ McKinsey & Company (Thailand) Co. Ltd. บริษัทที่ปรึกษาด้านการบริหารจัดการระดับโลก จัดทำรายงานสมุดปกขาว Improving Thailand’s Capital Market Competitiveness and Efficiency ศึกษาถึงโอกาสและข้อจำกัดของโครงสร้างตลาดทุนไทย ด้านความสามารถในการแข่งขันและประสิทธิภาพ เพื่อรองรับกระแสการเปลี่ยนแปลงและความท้าทาย ในด้านเทคโนโลยี เศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม ทั้งในระดับประเทศและระดับโลก โดยจากการศึกษาพบว่าตลาดทุนไทยยังเป็นกลไกหลักที่มีบทบาทสำคัญในการพัฒนาและขับเคลื่อนประเทศไทยอย่างยั่งยืน โดยภาพรวมตลาดทุนไทยมีศักยภาพในการแข่งขันเมื่อเทียบกับประเทศในอาเซียน

อีกทั้งเป็นแหล่งเงินทุนระยะยาวที่ส่งเสริมการพัฒนาเศรษฐกิจและนวัตกรรม และเป็นแหล่งความรู้ด้านการออมการลงทุน ตลาดทุนไทยยังสร้างประโยชน์แก่ประเทศหลายด้านช่วยให้ประชาชนที่จะเข้าสังคมผู้สูงอายุมีการออมสำหรับวัยเกษียณ การสร้างสภาวะแวดล้อมที่เอื้อต่อ startups และ SMEs แต่ต้นทุนการทำธุรกิจในตลาดทุนบางประเภท เช่น ต้นทุนการซื้อขายหุ้นในตลาดรองที่มีต้นทุนปัจจุบันสูงเป็นอันดับสองในอาเซียน (คำนวณโดยไม่ได้รวมภาษีขายหุ้น หรือ Financial Transaction Tax ที่อาจนำมาใช้) หรือกองทุนรวม ยังมีค่าสูงกว่าค่าเฉลี่ยของอาเซียน ทำให้ตลาดทุนไทยต้องปรับตัวเพื่อให้แข่งขันได้ด้วยต้นทุนที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น

รายงานฉบับนี้ยังจัดทำ 10 ข้อเสนอเชิงนโยบายเพิ่มเติม เพื่อการพัฒนาตลาดทุนไทยให้ยั่งยืนในอนาคต ดังนี้ 1. ส่งเสริมการจัดหาเงินทุนที่ยั่งยืนเพื่อช่วยให้ประเทศไทยก้าวไปสู่การปล่อยคาร์บอนเป็นศูนย์ (Net-zero carbon emissions)โดยการผลักดันนวัตกรรมการเงินสีเขียว (Green Finance) ในตลาดทุนไทย 2. พัฒนากองทุนบำเหน็จบำนาญเพื่อรองรับสังคมผู้สูงอายุ โดยการสนับสนุนการพัฒนาของกองทุนบำเหน็จบำนาญแห่งชาติ 3. ส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs / startups) ผ่านการสนับสนุนด้านเงินทุน การให้คำปรึกษา การสร้างแพลตฟอร์ม และการทำข้อตกลงในการระดมทุน 4. ขยายสินทรัพย์ดิจิทัล ควรสำรวจการใช้งานที่หลากหลาย และสร้างความมั่นใจในการบริหารความเสี่ยง 5. ปรับปรุงความรู้ทางการเงิน ผ่านความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชน โครงการลงทุนรูปแบบใหม่ และการส่งเสริมการรับรู้เรื่องการลงทุนตั้งแต่อายุยังน้อย

6. ส่งเสริมการลงทุนของผู้ลงทุนรายย่อย โดยลดความซับซ้อนของการเข้าสู่การลงทุน นำเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้ เพื่อเพิ่มจำนวนผู้ลงทุนรายย่อยในตลาดทุนไทย 7. ดึงดูดเงินลงทุนระยะยาวจากผู้ลงทุนสถาบันต่างประเทศ โดยสร้างสภาพแวดล้อมที่เปิดกว้างมากขึ้นให้ทัดเทียมกับประเทศผู้นำระดับภูมิภาค และมีโครงสร้างพื้นฐานที่รองรับภาคเศรษฐกิจใหม่ 8. พัฒนาผู้ลงทุนสถาบันในประเทศ สร้างความแข็งแกร่งให้กับผู้ลงทุนสถาบันในประเทศโดยการกระจายการลงทุนไปสู่ทรัพย์สินที่มีความหลากหลายมากขึ้น 9. ปลดล็อกการวิเคราะห์ข้อมูล (Data Analytics) โดยการลงทุนในการสร้างมาตรฐานข้อมูลและการรวบรวมแหล่งข้อมูลเพื่อการลงทุน 10. ดึงดูดและบ่มเพาะบุคลากรที่มีความสามารถ (Talent) : โดยการดึงดูดบุคลากรที่มีทักษะตามความต้องการเข้าสู่ตลาดทุนไทย และการยกระดับบุคลากรในตลาดทุนไทยปัจจุบันให้มีทักษะตามที่คาดหวัง

ทั้งนี้ การพัฒนาตลาดทุนไทยตามแนวทางดังกล่าวพร้อมกับการรักษาระดับความสามารถในการแข่งขันด้านต้นทุน นับเป็นข้อเสนอแนะจากการศึกษา เพื่อให้ตลาดทุนไทยสามารถต่อยอดจากความสำเร็จในอดีต และสร้างตลาดทุนไทยที่สามารถตอบสนองความต้องการของคนรุ่นใหม่ ซึ่งการที่จะทำให้เกิดตลาดทุนแห่งอนาคตของประเทศไทยได้จริง จำเป็นต้องได้รับการสนับสนุนและความร่วมมือจากภาครัฐและภาคเอกชนทุกภาคส่วนอย่างจริงจัง