เปิดเส้นทางปั่นจักรยานและเส้นทางศึกษาธรรมชาติในแปลงปลูกป่าFPT 49 เฉลิมพระเกียรติร.10

  • กรมอุทยานฯ-หน่วยบัญชาการทหารพัฒนา-ปตท.
  • ร่วมสานต่อพระราชปณิธานการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติของพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว
  • มุ่งส่งเสริมจิตอาสาการมีส่วนร่วมรักษาทรัพยากรธรรมชาติและพัฒนาคุณภาพชีวิตที่ดีแก่สังคม

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เป็นประธานในงานกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติ “เทิดไท้องค์ราชันน้อมเกล้าศิระกราน” แปลงปลูกป่าFPT 49 เขตห้ามล่าสัตว์ป่าป่าเขาภูหลวงโดยมีนายประกิตวงศ์ศรีวัฒนกุลรองอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืชพร้อมด้วย พันเอกโกศลกิจ กุลธนันต์ รองผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาภาค5 หน่วยบัญชาการทหารพัฒนาและ นายชาญศิลป์ ตรีนุชกร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่บริษัทปตท. จำกัด (มหาชน) ร่วมกันเปิดเส้นทางปั่นจักรยานและเส้นทางศึกษาธรรมชาติในแปลงปลูกป่าFPT 49 พร้อมร่วมกิจกรรมปลูกต้นรวงผึ้งและกิจกรรมจิตอาสาพัฒนาโป่งเทียมเพื่อสืบสานความหวงแหนในผืนป่าร่วมเป็นจิตอาสารักษ์โลกและสานต่อพระราชปณิธานโครงการจิตอาสาของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่10 ณอ.ปักธงชัยจ.นครราชสีมา

นายชาญศิลป์ กล่าวว่า เนื่องในโอกาสพระราชพิธีบรมราชาภิเษกพุทธศักราช2562 กลุ่มปตท. ได้จัดกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติ“เทิดไท้องค์ราชันน้อมเกล้าศิระกราน”ต่อเนื่องตลอดปี ด้วยมุ่งมั่นสานต่อพระราชปณิธานโครงการจิตอาสาของพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัวและเผยแพร่พระราชกรณียกิจด้านการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ จึงได้ร่วมมือกับกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืชและหน่วยบัญชาการทหารพัฒนากองบัญชาการกองทัพไทยตลอดจนชุมชนในจ.นครราชสีมาพัฒนาเส้นทางจักรยานระยะทาง7 กิโลเมตรเชื่อมไปสู่เส้นทางศึกษาธรรมชาติระยะทาง800 เมตรในพื้นที่แปลงปลูกป่าประวัติศาสตร์โดยมีแรงบันดาลใจจากต้นประดู่ป่าทรงปลูก“ต้นไม้ต้นที่100 ล้าน” ในโครงการปลูกป่าถาวรเฉลิมพระเกียรติฯ1 ล้านไร่ของปตท. เมื่อปี2540 ณแปลงปลูกป่าFPT 49 เขตห้ามล่าสัตว์ป่าป่าเขาภูหลวงภายใต้การดูแลของกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช

ทั้งนี้เมื่อวันที่  28 ก.ย. 2562 ได้พร้อมเปิดเส้นทางอย่างเป็นทางการเพื่อให้ประชาชนสามารถเข้าถึงและตระหนักในความอุดมสมบูรณ์ของผืนป่าใต้ร่มพระบารมีแห่งนี้และชมนิทรรศการถาวรเพื่อเผยแพร่พระราชกรณียกิจของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่10 ที่มีต่อการพัฒนาพื้นที่สีเขียวพลิกฟื้นแปลงปลูกป่าFPT 49 จากสภาพเขาหัวโล้นกลายเป็นผืนป่าบกที่มีขนาดใหญ่ที่สุดของปตท. อันจะเป็นแหล่งเรียนรู้การฟื้นฟูป่าและระบบนิเวศซึ่งกลุ่มปตท. ชุมชนรอบพื้นที่และหน่วยงานภาครัฐร่วมกันทำนุบำรุงจนปัจจุบันเจริญเติบโตแผ่กิ่งก้านเป็นศูนย์กลางความอุดมสมบูรณ์ของผืนป่าโดยรอบและเป็นสัญลักษณ์สำคัญของการอนุรักษ์ทรัพยากรป่าไม้ให้คงอยู่อย่างยั่งยืน

ปัจจุบันแปลงปลูกป่าFPT 49 เป็นส่วนหนึ่งของป่าต้นน้ำให้กับแม่น้ำสายหลักที่สำคัญหลายสายจากการประเมินผลสัมฤทธิ์พบว่าสามารถกักเก็บก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์1.003 ล้านตันคาร์บอนไดออกไซด์ชุมชนได้รับประโยชน์จากป่าคิดเป็นมูลค่าประมาณ1.55 ล้านบาท/หมู่บ้าน/ปีและฟื้นคืนความหลากหลายของสัตว์ป่าได้มากกว่า150 ชนิดจนได้รับการผนวกเป็นส่วนหนึ่งของเขตห้ามล่าสัตว์ป่าป่าเขาภูหลวงในปัจจุบันทั้งนี้บริเวณโดยรอบผืนป่ายังเป็นจุดศูนย์กลางพื้นที่อนุรักษ์มรดกทางทรัพยากรธรรมชาติที่ได้รับการรับรองจากUNESCO แล้วถึง2 โปรแกรมคือพื้นที่สงวนชีวมณฑลสะแกราชและมรดกโลกดงพญาเย็น-เขาใหญ่และอยู่ระหว่างการขอรับรองอีก1 โปรแกรมคืออุทยานธรณีโคราชและหากได้รับการรับรองครบทั้ง3 โปรแกรมดังกล่าวจะได้ชื่อว่าเป็น“ดินแดนแห่ง3 มงกุฎของยูเนสโก” หรือThe UNESCO Triple Crown แห่งที่4 ของโลกซึ่งต้นประดู่ป่าทรงปลูก“ต้นไม้ต้นที่100 ล้าน” เป็นศูนย์กลางของพื้นที่ภายใต้สภาพแวดล้อมที่สมบูรณ์เพื่อเป็นมรดกตกทอดให้กับลูกหลานไทยใต้ร่มพระบารมีสืบไป

นอกจากนี้ยังได้จัดกิจกรรม“รวมใจจิตอาสาฟื้นฟูพิทักษ์ป่าถวายองค์ราชัน” ตลอดปีมหามงคลบรมราชาภิเษกนี้ด้วยการเชิญชวนประชาชนให้มาร่วมกันพัฒนาสภาพป่าเพื่อให้ระบบนิเวศมีความสมบูรณ์มากยิ่งขึ้นโดยมีกิจกรรมต่างๆอาทิกิจกรรมบำรุงรักษาแหล่งน้ำธรรมชาติซ่อมแซมแนวกันไฟทำโป่งเทียมและปลูกพืชอาหารให้สัตว์ป่าเป็นต้นเพื่อให้เกิดความรู้ความเข้าใจและตระหนักต่อความสำคัญของทรัพยากรน้ำการฟื้นฟูป่าและความหลากหลายทางชีวภาพที่มีผลต่อความสมดุลของระบบนิเวศสร้างความตระหนักในการอนุรักษ์ทรัพยากรป่าไม้ให้เกิดขึ้นอย่างกว้างขวางอีกด้วยโดยที่ผ่านมากลุ่มปตท. ยังได้รับความร่วมมือจากชุมชนรอบพื้นที่หน่วยงานภาครัฐและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการจัดทำโครงการด้านการอนุรักษ์อื่นๆอาทิโครงการฟื้นฟูและอนุรักษ์ป่าต้นนํ้าปี2552- 2556 กิจกรรม“เมล็ดพันธุ์แห่งความภักดี…ใต้ร่มพระบารมี” พลิกฟื้นคืนผืนป่าปี2560 งานวิจัยความหลายหลากทางชีวภาพในพื้นที่ปี2561 เป็นต้น