เปิดมติบอร์ดกสทช. 4 : 2 : 1 ให้ “ไตรรัตน์ วิริยะศิริกุล”พ้นรักษาการเลขาธิการ “กสทช.”

  • ดัน“ภูมิศิษฐ์  มหาเวสน์ศิริ”   ทำหน้าที่รักษาการเลขาธิการกสทช.แทน
  • ตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัย “ไตรรัตน์” 
  • สังเวย! สนับสนุนเงินทุนถ่ายทอดสดฟุตบอลโลก2022

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการประชุมคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ที่มีศาสตราจารย์คลินิก สรณ บุญใบชัยพฤกษ์ เป็นประธาน กสทช.  เมื่อวันที่ 9 มิ.ย. 2566  ได้มีมติสั่งยุติการปฎิบัติหน้าที่รักษาการเลขาธิการกสทช.ของนายไตรรัตน์ วิริยะศิริกุล รองเลขาธิการกสทช. โดยให้ทำหน้าที่รองเลขาธิการ เพียงตำแหน่งเดียว และให้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบวินัยด้วย พร้อมแต่งตั้งผู้ช่วยศาสตรจาร์ยภูมิศิษฐ์  มหาเวสน์ศิริ รองเลขาธิการกสทช. ทำหน้าที่รักษาการเลขาธิการกสทช.แทน

ทั้งนี้บอร์ดกสทช.ได้ใช้วิธีการโหวต โดยกรรมการมีทั้ง 7 คน มีมติ 4:2:1 โดยกรรมการกสทช. 4 คน ให้นายไตรรัตน์ ยุติการทำหน้าที่รักษาการเลขาธิการกสทช. และตั้งณะกรรมการสอบวินัย ได้แก่ 1. รองศาสตราจารย์ ดร.สมภพ ภูริวิกรัยพงศ์ 2.พลอากาศโท ธนพันธุ์ หร่ายเจริญ 3.ศาสตราจารย์ พิรงรอง รามสูต 4.รองศาสตราจารย์ ศุภัช ศุภชลาศัย ส่วนอีก 2 คน ของดออกเสียง คือ ศาสตราจารย์คลินิก สรณ ,นายต่อพงศ์ เสลานนท์ ส่วนอีก 1 คน ให้นายไตรรัตน์ ยังคงปฎิบัติหน้าที่เลขาธิการกสทช.เช่นเดิม คือ พลตำรวจเอก ดร.ณัฐธร เพราะสุนทร

ทั้งนี้เป็นการดำเนินการตามมติขิงคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงของคณะอนุกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีการดำเนินการของสำนักงานกสทช.เกี่ยวกับการสนับสนุนค่าใช้จ่ายการซื้อลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสดรายการแข่งขันฟุตบอลโลกรอบสุดท้าย 2022 ที่มีพลตำรวจโทเกียรติพงศ์​ ขาวสำอาง  นพ.ประวิทย์  ลี่สถาพร ดร.มุนินทร์ พงศาปาน และพลตำรวจโทกมล เหรียญราชา เป็นกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง  ซึ่งให้ความเห็นว่า กรณีการดำเนินการของนายไตรรัตน์​ อาจมีการกระทำที่เข้าข่ายเป็นการฝ่าฝืนหรือไม่ปฎิบัติตามกฎหมาย ประกาศที่เกี่ยวข้อง และมติที่ประชุมกสทช. รวมถึงข้อเสนอของการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) ที่ได้ยื่นการขอรับการสนับสนุนจากกองทุนวิจัยและพัฒนากิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม เพื่อประโยชน์สาธารณะ  (กองทุนกทปส.)​ตลอดจนบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (เอ็มโอยู)  ที่ได้ทำไว้กับสำนักงานกสทช.

สำหรับปัญหาการถ่ายทอดสดฟุตบอลโลก2022นั้น เป็นประเด็นปัญหามาตลอด นับตั้งแต่กกท.ได้รับลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสดจากสมาพันธ์ฟุตบอลโลก แต่กกท.จำเป็นต้องหาเงินงบประมาณเพื่อสนับสนุนการถ่ายทอดสด จึงได้ทำเรื่องขอสนับสนุนงบประมาณมายังสำนักงานกสทช. และสำนักงานกสทช.ได้ส่งต่อให้กองทุนกทปส. พิจารณาตามขั้นตอน ที่สุด บอร์ดกสทช.ได้อนุมัติสนับสนุนงบประมาณ 600 ล้านบาท เพื่อการถ่ายทอดสดฟุตบอลโลกรอบสุดท้าย เพื่อให้คนไทยได้รับชม  

ขณะเดียวกันกกท.ได้ทำเอ็มโอยู กับกลุ่มทรู  เพื่อรับเงินสนับสนุนอีก 300 ล้านบาท โดยได้รับสิทธิ์การถ่ายทอดสดฟุตบอลโลก 32 แมตซ์ และเป็นคู่สำคัญๆด้วย จึงเกิดประเด็นปัญหาขึ้นมาทันที   เนื่องจากผู้ประกอบการทีวีดิจิทัล ได้ยื่นร้องเรียนมายังกสทช. โดยระบุว่า เมื่อได้ใช้เงินกองทุนกทปส. ทีวีทุกช่องต้องได้รับสิทธิจัดสรรการถ่ายทอดสดฟุตบอลโลกด้วย และต้องดูรายการได้ ทุกแพลตฟอร์ม แบบห้าม  “จอดำ” แต่สุดท้าย ก็ต้องจอดำ หากดูผ่านอินเตอร์เน็ต โดยเฉพาะลูกค้าของเอไอเอสไฟเบอร์  ที่ไม่สามารถดูรายการถ่ายทอดสดผ่านอินเตอร์เน็ตได้ ต่างจากลูกค้ากลุ่มทรู สามารถดูรายการผ่านอินเตอร์เน็ตได้  ถือเป็นความไม่เท่าเทียม 

ทำให้บอร์ดกสทช. ต้องทำหนังสือถึงกกท. เพื่อเรียกเงินสนับสนุน 600 ล้านบาทคืน เนื่องจากประชาชนไม่สามารถรับชมการถ่ายทอดฟุตบอลโลกทุกแพลตฟอร์ม ถือว่าไม่เป็นตามวัตถุประสงค์ของกองทุนกทปส.และไม่เป็นไปตามหลักเกณฑ์การเผยแพร่กิจการโทรทัศน์ที่ให้บริการเป็นการทั่วไป หรือ มัสต์แครี่ (Must Carry)  ซึ่งขณะนี้คณะอนุกรรมการเรียกเงินคืน อยู่ระหว่างประะชุมหาข้อยุติ และตามทวงเงินคืนจากกกท.อย่างใกล้ชิด 

สำหรับกรรมการกสทช. 7  คน ประกอบด้วย 1.ศาสตราจารย์คลินิก สรณ  2.พลอากาศโท ธนพันธุ์ หร่ายเจริญ  3.ศาสตราจารย์ พิรงรอง รามสูต  4.นายต่อพงศ์ เสลานนท์   5.รองศาสตราจารย์ ศุภัช ศุภชลาศัย  6.พลตำรวจเอก ดร.ณัฐธร เพราะสุนทร 7.รองศาสตราจารย์ ดร.สมภพ ภูริวิกรัยพงศ์ 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากบอร์ดกสทช.มีมติสั่งให้นายไตรรัตน์ หยุดทำหน้าที่รักษาการเลขาธิการกสทช. ได้มีการแชร์ข้อมูลผ่านไลน์กลุ่มกสทช. โดยระบุว่า วันจันทร์ 12 มิ.ย.นี้ ขอเชิญพี่ๆน้องๆ แลผองเพื่อน รวมกันแต่งชุดดำ ทั่วสายลม จากชมรมคนรักหนุ่ม   เนื่องจากชื่อเล่นนายไตรรัตน์ ชื่อ “หนุ่ม”