“เทพไท”เซ็งรัฐบาลให้เวลาอภิปรายร่างพ.ร.บ.งบปี63น้อยเกินไป

  • ชี้ถ้าไม่ผ่าน นายกฯ ต้องยุบสภาเลือกตั้งใหม่
  • เหน็บคนเดือนร้อนคือนักการเมือง
  • แต่ปชช.จะยินดีเพราะเงินสะพัดยิ่งกว่าชิม ช้อป ใช้

นายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการประชุมสภาสมัยวิสามัญพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2563 ว่า การพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายฯ ของรัฐบาลถือว่าเป็นกฎหมายที่สำคัญที่สุดของรัฐบาล เพราะถ้ากฎหมายฉบับนี้ไม่ผ่านความเห็นชอบของสภา รัฐบาลจะต้องรับผิดชอบทางการเมืองคือต้องยุบสภาหรือลาออก เพราะฉะนั้นอยากให้ทุกฝ่ายให้ความสำคัญและให้เวลาการพิจารณาอย่างเต็มที่ ต้องให้โอกาสสมาชิกทั้งฝ่ายค้านและรัฐบาลได้แสดงความคิดเห็นอย่างเต็มที่อย่างเปิดกว้างด้วย 

“ต้องยอมรับความจริงว่า สภาฯชุดนี้มาจากการเลือกตั้งของประชาชน เป็นตัวแทนที่แท้จริงของประชาชนทั่วทั้งประเทศ จะใช้มาตรฐานเหมือนสภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.) ไม่ได้ เพราะสนช.ใช้เวลาพิจารณางบประมาณวงเงิน 3 ล้านล้านบาท เพียง 30 นาทีก็ผ่านได้โดยสะดวก ซึ่งเป็นเรื่องมหัศจรรย์ที่สุด จึงอยากให้ทุกฝ่ายตระหนักว่าสภาฯชุดนี้ไม่ใช่ “สภาฝักถั่ว” ส.ส.ทั้งฝ่ายค้านและรัฐบาลมีสิทธิ์ที่จะลุกขึ้นอภิปรายคัดค้านหรือสนับสนุนงบประมาณของรัฐบาลชุดนี้อย่างไรก็ได้”  นายเทพไท กล่าว

นายเทพไท กล่าวว่า การที่รัฐบาลกำหนดวันเวลาประชุมเพียง 2 วันอาจไม่เพียงพอ ส่วนที่พรรคฝ่ายค้านอยากให้เปิดอภิปราย 5 วันก็เป็นเวลาที่มากเกินไป ส่วนตัวเห็นว่าจำนวนวันเวลาที่เหมาะสมน่าจะ 3 วันและควรจะเปิดโอกาสให้ส.ส.ทั้งฝ่ายค้านและรัฐบาลอภิปรายในสัดส่วนเวลาที่ใกล้เคียงกัน เพราะในการประชุมทุกครั้งที่ผ่านมา ส.ส.ฝ่ายรัฐบาลจะเสียเปรียบเรื่องเวลาในการอภิปรายอยู่เสมอ จะถูกวิปสั่งให้รวบรัดการอภิปรายในเวลาที่จำกัด โดยมีข้ออ้างว่าเป็นรัฐบาลไม่ควรอภิปรายมากมาย ถือว่าเป็นการปิดกั้นการทำหน้าที่ของส.ส. เพราะส.ส.ทุกคนอยากจะสะท้อนปัญหาของประชาชนในเขตเลือกตั้งของตัวเอง เพื่อให้รัฐบาลรับทราบและนำไปแก้ไขปัญหา

ส่วนกรณีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมระบุว่าถ้างบประมาณไม่ผ่านจะเดือดร้อนทั้งประเทศ นายเทพไท กล่าวว่า ไม่คิดว่าเป็นการส่งสัญญาณหรือข่มขู่ทางการเมือง แต่นายกรัฐมนตรีอาจจะเป็นห่วงว่า ถ้างบประมาณไม่ผ่านสภาฯ ประเทศจะไม่มีงบประมาณแผ่นดินใช้ ต้องนำงบประมาณปี62 มาใช้ชั่วคราวเฉพาะส่วนของงบรายจ่ายประจำเท่านั้น แต่งบพัฒนาหรืองบลงทุนนำมาใช้ไม่ได้ จึงสร้างความเดือดร้อนทุกภาคส่วน 

“แต่ถ้างบประมาณไม่ผ่านสภาฯ จริง นายกฯจะใช้สิทธิ์ประกาศยุบสภาเพื่อเลือกตั้งใหม่ คนที่เดือดร้อนคือนักการเมือง พรรคการเมืองและรัฐบาลเท่านั้น สำหรับประชาชนทั้งประเทศจะยินดีปรีดามากกว่าเดือดร้อน เพราะจะได้มีโอกาสเลือกตั้งอีกครั้ง ซึ่งจะทำให้ภาวะเศรษฐกิจการเงินสะพัดมากกว่าโครงการ ชิม ช้อป ใช้หลายเท่า” นายเทพไท กล่าว