เชือด!พ่อค้าโก่งราคายาฟ้าทะลายโจร-ชุดตรวจโควิด

.พาณิชย์พบผู้ค้าค้ากำไรเกินควรเพิ่มอีก 10 ราย

.ขายผ่าน Shopee-Lazada โขกกำไรกว่า 500%

.แจ้งความดำเนินคดี-จ่อเอาผิดเพิ่มอีกหลายราย

นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ เปิดเผยว่า กระทรวงพาณิชย์ พบผู้ค้ายาฟ้าทะลายโจร และชุดตรวจโควิดด้วยตนเอง (เอทีเค) ค้ากำไรเกินควรเพิ่มอีก 10 ราย จากสัปดาห์ก่อนที่ได้แจ้งความดำเนินคดีกับผู้ค้าสินค้าทั้ง 2 รายการในราคาสูงเกินสมควรไปแล้ว 11 ราย ซึ่งมีความผิดตามมาตรา 29 พ.ร.บ.ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการพ.ศ.2542 มีโทษจำคุกสูงสุดไม่เกิน 7 ปี หรือปรับไม่เกิน 140,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ โดยกระทรวงพาณิชย์ ร่วมกับกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (ปคบ.) แจ้งความดำเนินคดีแล้ว 

สำหรับผู้ค้ากำไรเกินควรทั้ง 10 รายใหม่ แบ่งเป็น ผู้ค้ายาฟ้าทะลายโจร 9 ราย เป็นการขายผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ Shopee 2 ราย และ Lazada 7 ราย โดยนำยาฟ้าทะลายโจรยี่ห้ออภัยภูเบศร ขนาด 60 เม็ด ราคาปกติขวดละ 80 บาท มาขายสูงถึง 325-499 บาท หรือสูงกว่าราคาปกติ 306-524% และยี่ห้อไฟโตแคร์ ขนาด 60 เม็ด ราคาปกติขวดละ 75 บาท แต่ขายสูงถึง 369-399 แพงกว่าปกติ 392-432% ขณะที่เอทีเค มี 1 ราย เป็นร้านขายยาย่านบางใหญ่ จ.นนทบุรี ขายชุดละ 380 บาท จากราคาที่ผู้นำเข้าแจ้งกรมการค้าภายในไว้ที่ชุดละ 300 บาท หรือสูงกว่า 27%

“การพบผู้ค้ากำไรเกินควรครั้งนี้ ทั้งเป็นการได้รับแจ้งจากประชาชน และกรมการค้าภายในลงพื้นที่ได้สุ่มตรวจเอง ซึ่งจะแจ้งความดำเนินคดีกับทั้งผู้ค้ากำไรเกินควร และผู้มีอำนาจตามกฎหมายของทั้ง 2 แพลตฟอร์ม คาดว่า น่าจะพบผู้ค้าที่ค้ากำไรเกินควรเพิ่มขึ้นอีก เพราะยังมีประชาชนร้องเรียนเข้ามาอย่างต่อเนื่อง และกรมการค้าภายใน ก็ลงพื้นที่สุ่มตรวจต่อเนื่องเช่นกัน”

อย่างไรก็ตาม หากประชาชน พบกรณีที่คิดว่าเข้าข่ายค้ากำไรเกินควร กรุณาแจ้งสำนักงานพาณิชย์จังหวัดทุกจังหวัดทั่วประเทศ หรือแจ้งสายด่วนกรมการค้าภายใน 1569 เจ้าหน้าที่จะไปตรวจสอบให้ และถ้าพบการกระทำผิดจริง จะดำเนินการตามกฎหมายทันที”

ด้านนายบุณยฤทธิ์ กัลยาณมิตร ปลัดกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า คาดว่า เร็วๆ นี้ กระทรวงพาณิชย์ จะแจ้งความดำเนินคดีกับผู้ค้ายาฟ้าทะลายโจร และเอทีเค ที่ค้ากำไรเกินควรเพิ่มเติมได้อีก เพราะขณะนี้อยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐาน ส่วนคณะอนุกรรมการ ที่คณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ (กกร.) ได้แต่งตั้งขึ้นเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา เพื่อวิเคราะห์ ติดตามสถานการณ์การจำหน่าย และราคาเอทีเค ที่มีตนเป็นประธานนั้น ได้ประชุมนัดแรกเมื่อวันที่ 17 ส.ค. เพื่อกำหนดมาตรการที่เหมาะสมในการกำกับดูแลการจำหน่าย และราคาเอทีเค และล่าสุด ผู้นำเข้าเอทีเค ที่ขึ้นทะเบียนกับสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ได้ทยอยส่งต้นทุนการนำเข้า และราคาที่จะวางขายในท้องตลาดมาให้อย่างต่อเนื่องแล้ว