“อุตตม”นำสกพอ.ให้ความมั่นใจนักลงทุนญี่ปุ่น

  • ย้ำสถานะทางเศรษฐกิจของไทยมีเสถียรภาพ
  • ดันอีอีซีเป็นเป้าหมายลงทุนต่อเนื่อง
  • ชวนเจบิกขยายบทบาทในไทย

นายอุตตม สาวนายน รมว.คลัง เปิดเผยว่า ได้เดินทางเยือนประเทศญี่ปุ่น ระหว่างวันที่ 29 ก.ค – ส.ค.2562 เพื่อกระชับความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจ โดยมีนายคณิศ แสงสุพรรณ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (สกพอ.) และคณะร่วมเดินทางด้วย โดยได้เข้าพบนายทาโร อาโสะ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.คลังของญี่ปุ่น เพื่อสร้างความเชื่อมั่นและเน้นย้ำสถานะทางเศรษฐกิจของไทยว่ามีเสถียรภาพและมีนโยบายทางเศรษฐกิจที่ต่อเนื่อง อีกทั้งยังให้ความสำคัญกับการดำเนินนโยบายเพื่อสนับสนุนการยกระดับศักยภาพทางเศรษฐกิจและเสริมสร้างขีดความสามารถในการแข่งขันของไทย และสนับสนุนการลงทุนและการสร้างโครงสร้างพื้นฐาน ทั้งในประเทศและเชื่อมโยงระหว่างประเทศไทยกับกลุ่มประเทศ CLMV ซึ่งประกอบด้วย กัมพูชา ลาว เมียนมา และเวียดนาม นอกจากนี้ ยังได้หารือถึงการสร้างความร่วมมือระหว่างกระทรวงการคลัง หน่วยงานกำกับดูแลด้านการเงิน และสถาบันฟการเงินของทั้งสองประเทศในด้านต่าง ๆ เช่น การลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน การส่งเสริมผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) การเชื่อมโยงระบบการชำระเงินอิเล็กทรอนิกส์ และนโยบายรองรับสังคมผู้สูงอายุ

ขณะเดียวกันได้เข้าพบนายฮิโรชิกิ เซโกะ รมว.เศรษฐกิจการค้าและอุตสาหกรรมญี่ปุ่น เพื่อกระชับความร่วมมือและสานต่อนโยบายทางเศรษฐกิจของรัฐบาล โดยเฉพาะนโยบายการพัฒนาภาคอุตสาหกรรมในเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี)และได้หารือกับนายทาดาชิ เมดะ ผู้ว่าการธนาคารเพื่อความร่วมมือระหว่างประเทศแห่งญี่ปุ่น (Japan Bank for International Cooperation หรือ เจบิก) เกี่ยวกับการดำเนินโครงการที่สำคัญของเจบิกในประเทศไทย เช่น การสนับสนุนด้านเงินกู้ทั้งในโครงการภาครัฐและภาคเอกชน รวมทั้งการสนับสนุนทางการเงินแก่ธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม(เอสเอ็มอี)ของญี่ปุ่นในประเทศไทย ในโอกาสนี้ ได้เชิญชวนให้เจบิกขยายบทบาทในประเทศไทย โดยขณะนี้ประเทศไทยมีโครงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทั้งในประเทศและเชื่อมโยงระหว่างประเทศไทยกับภูมิภาคอาเซียน รวมทั้งโครงการเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) ซึ่งได้ขอบคุณที่ญี่ปุ่นมีบทบาทสำคัญในการสนับสนุนกลไกการขับเคลื่อนการพัฒนาตามยุทธศาสตร์ไทยมาโดยตลอด นอกจากนี้ยังได้หารือทวิภาคีกับผู้บริหารของบริษัท มารูเบอนี่ คอร์ปอเรชั่น ซึ่งได้ให้ความมั่นใจถึงเศรษฐกิจไทย พร้อมทั้งเชิญชวนให้บริษัทขยายการลงทุนในประเทศไทย

นอกจากนี้ ได้หารือกับผู้บริหารหน่วยงานเศรษฐกิจของญี่ปุ่น อาทิ นายคาซูโฮ ทานา ผู้ว่าการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร Japan Finance Corporation (JFC) และนายโนบูฮิโกะ ซาซากิ ประธานองค์การส่งเสริมการค้าต่างประเทศญี่ปุ่น (เจโทร) รวมถึงภาคเอกชนและสถาบันการเงินระดับสูง อาทิ บริษัท มิตซูบิชิ อีเลคทริคส์ คอร์ปอเรชั่น บริษัท โตโยต้า มอร์เตอร์ คอร์ปอเรชั่น และธนาคารมิตซูโอ พร้อมกันนี้ คณะได้เข้าร่วม งานเสวนาเรื่อง ทิศทางนโยบายด้านเศรษฐกิจการเงิน การคลังของไทยและความต่อเนื่องของอีอีซี และพบปะภาคเอกชนญี่ปุ่น โดยมีผู้แทนสมาพันธ์ธุรกิจ (Keidanren) ประมาณ 30 ราย เข้าร่วมรับฟังการเสวนาดังกล่าว