- สถาบันการเงินตรึงดอกเบี้ยไว้ให้ได้นานที่สุด
- หนี้เสียเพิ่มขึ้น เพราะแบงก์รัฐช่วยเหลือประชาชน
- ทั้งพักชำระหนี้ การปรับโครงสร้างหนี้
นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า กรณีที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายขึ้นอีก 0.75% นั้น สถาบันการเงินก็พยายามตรึงดอกเบี้ยไว้ให้ได้นานที่สุดในแต่ละแบงก์ โดยเฉพาะเป็นเรื่องที่เพิ่มต้นทุนให้กับผู้ประกอบการ ว่าในแง่หนี้รายย่อยก็ตรึงไว้ ขณะที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ก็ติดตามภาระผลกระทบว่ามีกับใครบ้าง ซึ่งก็พยายามบรรเทาผลกระทบให้ดีที่สุด
“เราอยู่ในช่วงการฟื้นตัว แต่ยอมรับว่า สหรัฐยังไม่หยุดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย และครั้งนี้ก็ขึ้นเยอะหน่อย แต่อาจจะมีอีก 1-2 ครั้ง ก็คงต้องช่วยกันประครองให้ระบบการเงินของเราพยุงไปได้และไม่เป็นหนี้เสีย เราจึงออกโครงการมหกรรมแก้ไขหนี้ขึ้นมา”
ทั้งนี้ สาเหตุที่อัตราส่วนหนี้สินที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL ratio) ของสถาบันการเงินของรัฐสูงกว่า แบงก์พาณิชย์นั้น เนื่องจากแบงก์รัฐได้ช่วยเหลือประชาชนมาโดยตลอด ไม่ว่าจะเป็นการพักชำระหนี้ การปรับโครงสร้างหนี้ ซึ่งเป็นกลไกของรัฐในการช่วยประชาชน และธุรกิจ ขณะที่แบงก์พาณิชย์ ก็ประกอบธุรกิจและป้องกันความเสี่ยง
