“อนุทิน”นำ สธ.ผนึก”AFRIMS”ลุยเพิ่มประสิทธิภาพคุมโควิด-19

15 กันยายน 2563 ที่สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์การแพทย์ทหาร(AFRIMS) ถนนโยธี กรุงเทพมหานคร นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข และคณะผู้บริหาร พร้อมด้วยนายไมเคิล จอร์จ ดีซอมบรี ( Michael George DeSombre) เอกอัครทูตสหรัฐฯ ประจำประเทศไทย เข้าเยี่ยมชมสถาบันวิทยาศาสตร์การแพทย์ทหาร US Army Medical Directorate of the Armed Forces Research Institute of Medical Sciences (USAMD-AFRIMS)เพื่อหารือความร่วมมือที่สำคัญด้านการสาธารณสุข ระหว่างไทยและสหรัฐอเมริกาในการวิจัยทางการแพทย์ การเฝ้าระวังโรค การพัฒนามาตรการตอบโต้ทางการแพทย์

โดยนายอนุทิน ให้สัมภาษณ์ว่า กระทรวงสาธารณสุขไทย ได้มีความร่วมมือกับประเทศสหรัฐอเมริกาอย่างใกล้ชิดผ่านศูนย์ความร่วมมือไทย-สหรัฐด้านสาธารณสุข (TUC) และ AFRIMS มาอย่างต่อเนื่อง

ร่วมศึกษาวิจัยทดลองทางคลินิกโรคเขตร้อน การผลิตวัคซีนเอชไอวี และวัคซีนป้องกันไข้เลือดออก รวมทั้งตั้งแต่ช่วงแรกที่พบผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ได้ช่วยสืบค้นผู้สัมผัส และช่วยในการตรวจทางห้องปฏิบัติการหาเชื้อโควิด 19 ซึ่ง AFRIMS เป็นเครือข่ายห้องปฏิบัติการวิจัยทางการแพทย์ของกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ

จากนี้ ได้ให้ความสำคัญด้านการป้องกันและรักษาโควิด-19 ทั้งในเรื่องของแนวทางรักษา และการวิจัยวัคซีน

ทั้งนี้จากการหารือในวันนี้ เพื่อเพิ่มโอกาสในการรักษา และเข้าถึงวัคซีนโควิด-19 ที่มีประสิทธิภาพ ขอย้ำว่าทางการไทย ไม่ได้เจาะจงว่าต้องร่วมมือกับใคร เพราะรัฐบาลพร้อมร่วมมือกับทุกฝ่าย เพื่อเป้าหมายให้คนไทยได้รับวัคซีนในระยะเวลาที่รวดเร็ว บนพื้นฐานของความปลอดภัยสูงสุด

นายอนุทิน กล่าวด้วยว่า ได้ขอความร่วมมือกับฝ่ายความมั่นคง ในการจัดการกลุ่มผู้ลักลอบเข้าเมือง เพื่อสกัดกั้นการระบาดของโควิด-19 ซึ่งเห็นว่าทางฝ่ายความมั่นคง จริงจังในเรื่องนี้ ล่าสุด ปลัดกระทรวงมหาดไทย ได้ออกหนังสือ สั่งการให้จังหวัดตามแนวชายแดน เพิ่มความเข้มงวดในการป้องกันโควิด-19 แล้ว นอกจากนั้น ประเทศไทย ยังมี อสม.ที่ดูแลเรื่องการเฝ้าระวังในพื้นที่ ภาพรวม ประเทศไทยนับว่ามีประสิทธิภาพในการควบคุมการระบาด หลักการของเราคือ ตรวจให้เจอ รักษาให้เร็ว รักษาให้หาย