นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าว ถึงเบื้องหลังเรื่อง ครม. ขอ สธ. ทำความเข้าใจประชาชน กรณีออกประกาศให้ผู้ป่วยโควิด-19 รักษาตามสิทธิ์ ว่า สิ่งที่ต้องเรียนคือ ประกาศดังกล่าวคืออำนาจของกระทรวงสาธารณสุข ในการออกอยู่แล้ว แต่ที่ต้องเข้า ครม. เพราะของบไว้ดูแลผู้ป่วยเกณฑ์สีเหลือง และเกณฑ์สีแดง แต่ในเมื่อมีการทักขึ้นมาว่าหากประกาศไปแล้ว จะทำให้สังคมวิตกกังวล และขอให้ไปทำความเข้าใจกับประชาชน ถึงเหตุและผลของการออกประกาศ เราก็พร้อมปฏิบัติตาม
ทั้งนี้ ประกาศดังกล่าวนั้น คือ การทำให้เรื่องของการรักษาผู้ป่วยเกณฑ์สีเขียว เหลือง แดง มีความชัดเจนขึ้น สำหรับผู้ป่วยเกณฑ์สีเขียว ต้องรักษาในระบบกักตัวที่บ้าน หรือในชุมชน ขึ้นกับความสะดวก ผู้ป่วยเกณฑ์สีเหลือง เกณฑ์สีแดง ถึงจะได้เข้ารักษาในสถานพยาบาล ต้องทำความเข้าใจธรรมชาติของโรคก่อนว่า ปัจจุบัน ผู้ป่วย 80% ไม่แสดงอาการ หรือมีอาการน้อยมาก หากเราให้ผู้ป่วยกลุ่มนี้ เข้าถึงเตียงได้หมด แล้วต่อมามีผู้ป่วยอาการหนักเข้ามา จะทำอย่างไร
อย่างไรก็ตามจากประสบการณ์ ในช่วงเริ่มต้น ถึงวิกฤติการระบาด การให้ผู้ป่วยโควิดฯ ที่ไม่มีอาการเข้ารักษาในโรงพยาบาล ได้กระทบกับระบบรักษาผู้ป่วยโรคอื่นอย่างยิ่ง มาถึงวันนี้ ได้เวลาต้องปรับวิธีการรักษา และทำให้ชัดเจนขึ้น เป็นที่มาของการออกประกาศ ซึ่งขอย้ำว่า สำหรับผู้ป่วยอาการรุนแรง สามารถใช้บริการ UCEP ได้ตามปกติ อันนี้ เราไม่ยกเลิก แต่ผู้ป่วยเกณฑ์สีเขียว ต้องทำให้เข้าใจตรงกันว่า ไม่จำเป็นต้องมารักษาที่โรงพยาบาลแล้ว
“ใน ครม. พอเสนอเรื่องนี้เข้าไป ก็มีการคิดไปว่า ผู้ป่วยจำนวนเพิ่มขึ้น แต่ สธ.กลับจะคลายความเข้มข้นในการรักษา ให้ผู้ป่วยกลับไปรักษาที่บ้าน แต่ในทางมุมแพทย์ สถานการณ์ ที่มีผู้ป่วยจำนวนมาก นั่นหมายถึงจำนวนผู้ป่วยหนักจะเพิ่มขึ้น สิ่งที่ต้องทำคือต้องเคลียร์เตียงให้ว่าง รองรับผู้ป่วยกลุ่มนี้ เรื่องประกาศฉบับนี้ ได้นำเข้าไปขอความเห็นในวงประชุมของ ศบค. ทางอาจารย์แพทย์ล้วนเห็นตรงกัน ว่าต้องมีการออกประกาศ แต่ในเมื่อมีการทักว่า ต้องไปทำความเข้าใจกับประชาชน ถึงเหตุผลที่ต้องออกประกาศ เพราะต้องการทำให้กฎเกณฑ์เรื่องรักษาพยาบาลการชัดเจนมันชัดขึ้น และเราต้องสำรองเตียงสำหรับผู้ป่วยสีเหลือ สีแดง เราก็พร้อมปฏิบัติตาม”
เมื่อถามถึงเรื่องงบที่เข้าไปขอในที่ประชุม ครม. คิดว่าจะได้รับการสนับสนุนหรือไม่ นายอนุทิน ตอบว่า ท่านนายกฯ ให้การสนับสนุนเรื่องการรักษาผู้ป่วยเสมอมา ครั้งนี้ ก็เชื่อว่าจะเป็นเช่นนั้น ที่เราต้องไปขอ เพราะงบส่วนนี้ ไม่ใช่งบปกติ กระทรวงฯ ไม่มีงบ งบที่มา มาจากงบเงินกู้ แต่ส่วนใหญ่คืองบกลาง ซึ่งอยู่ในการดูแลของท่านนายกฯ ดังนั้น เราขอหารือท่าน เพื่อของบมาดำเนินมาตรการ UCEP PLUS ที่จะทำให้ผู้ป่วยอาการปานกลางขึ้นไป สามารถเข้าโรงพยาบาลไหนก็ได้
