อนาคตใหม่ยืนกรานไม่ปลุกม็อบลงถนนแน่นอน

  • อนาคตใหม่ ยัน ธนาธร ลาออก ไม่ปลุกม็อบลงถนน
  • จี้วิปรัฐบาลถอนญัตตินับคะแนนใหม่สภาเดินหน้าต่อได้
  • ยันเสนอร่างพ.ร.บ.รับราชการทหาร เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพกองทัพไทย

นายคารม พลพรกลาง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคอนาคตใหม่ กล่าวถึงกระแสการวิพากษณ์วิจารณ์ว่า นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ลาออกจากกรรมาธิการพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณ 2563 เพื่อปลุกม็อบลงถนน ว่า การที่จะปลุกม็อบนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายเพราะเรามีบทเรียนจากในอดีตที่ผ่านมา และตนเชื่อว่านายธนาธรไม่ได้คิดที่จะปลุกม็อบหรือต้องการให้เกิดความขัดแย้งและรุนแรง และตั้งใจอยากเป็นส.ส.เพื่อเข้าไปขับเคลื่อนการเมืองรูปแบบใหม่ 

“ช่วงนี้คุณธนาธรคงต้องระมัดระวังมากกว่าเดิม ผมเชื่อว่าคุณธนาธรจะไม่ทำอะไรที่สุ่มเสี่ยงเข้าทางฝ่ายที่จับจ้องอยู่อย่างแน่นอน โดยเฉพาะตามรัฐธรรมนูญมาตรา 116 ข้อหาการยุยงปลุกปั่น ที่จะไปเข้าทางคนที่ต้องการล้มนายธนาธรและพรรคอนาคตใหม่อยู่แล้ว”นายคารม กล่าว

นายคารม ขอให้รัฐบาลไม่ต้องไปกังวลเรื่องนายธนาธร แต่ควรจะกังวลกับการบริหาร โดยเฉพาะปัญหาเศรษฐกิจที่ซบเซา เพราะรัฐบาลจะอยู่ได้หรือไม่ ไม่เกี่ยวกับนายธนาธรจะเดินเกมนอกสภา 

“รัฐบาลวันนี้เหมือนคนที่อยากเข้าห้องสอบไปทำข้อสอบ แต่อ่านหนังสือมาน้อยและมีความรู้ไม่เพียงพอ เมื่อเจอข้อสอบเรื่องเศรษฐกิจ เลยไปนั่งงงนั่งมึนในห้องสอบ ไม่รู้ว่าจะแก้โจทย์ข้อสอบอย่างไร จึงเขียนคำตอบที่ไม่ถูกต้องลงไป เหมือนการแก้ปัญหาเศรษฐกิจวันนี้ที่ไม่ถูกทาง ผมคิดว่า รัฐบาลควรจะไปเพิ่มความรู้ในการแก้ปัญหาด้านเศรษฐกิจ รู้ให้ลึกรู้ให้จริง ถ้ารัฐบาลแก้ปัญหาเศรษฐกิจได้ ก็อยู่ได้อีกนานโดยไม่ต้องไปกังวลอะไร”นายคารม กล่าว

นายคารม ยังกล่าวถึงกรณีที่การประชุมสภาฯล่มถึง 2 ครั้งในสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า เรื่องนี้เกิดจากการพยายามเสนอญัตติให้นับคะแนนใหม่ในการตั้งกรรมาธิการศึกษาผลกระทบจากคำสั่งคสช.และมาตรา 44 ที่ฝั่งรัฐบาลแพ้แล้วไม่ยอมแพ้ ยืนยันฝ่ายค้านไม่ได้ค้านในทุกๆเรื่อง เรื่องที่ดีพร้อมจะสนับสนุน แต่กรณีนี้ฝ่ายรัฐบาลอย่ามาเล่นเกม เมื่อลงมติแล้วแพ้ก็ต้องยอมรับ ฝ่ายรัฐบาลต้องใจกว้างแล้วงานในสภาจะเดินหน้าไปด้วยดี ทั้งนี้เห็นว่านายวิรัช รัตนเศรษฐ ในฐานะประธานวิปรัฐบาล ควรถอนญัตติการนับคะแนนใหม่ออกจะสวยงามกว่า เพราะถ้าไม่ถอนฝ่ายค้านไม่เปลี่ยนจุดยืนแน่นอน แล้วสภาจะเดินต่อไปลำบาก 

ด้านพล.ท.พงศกร รอดชมภู รองหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ระบุเหตุที่นายนายธนาธร ตัดสินใจลาออกเพราะต้องการทำงานมวลชนเต็มตัว ไม่ใช่ไม่รับผิดชอบต่อหน้าที่ตามที่บางคนกล่าวหา โดยนายธนาธรจะลงพื้นที่รับฟังปัญหาจากชาวบ้านพร้อมกับทีมงาน และนำข้อมูลและปัญหาต่างๆ ส่งต่อให้ส.ส.ของพรรค เพื่อขับเคลื่อนการแก้ปัญหาต่อในสภา เป็นเหมือนการเดินแบบสองขาทั้งในและนอกสภาควบคู่กันไป เชื่อว่าการทำงานแบบนี้จะได้ประโยชน์อย่างมาก นอกจากนี้ยังจะได้รณรงค์สร้างความรู้แก่ประชาชนในเรื่องต่างๆ ทั้งการแก้รัฐธรรมนูญ และการผลักดันร่างพ.ร.บ.ต่างๆ และยืนยันว่าการทำงานมวลชนไม่ใช่การปลุกม็อบลงถนน 

พล.ท.พงศกร กล่าวถึงกระแสการคัดค้านร่างพ.ร.บ.รับราชการทหาร ของพรรคอนาคตใหม่ ที่เสนอการปรับเปลี่ยนการเกณฑ์ทหารว่า พรรคอนาคตใหม่ ไม่ได้เสนอให้ยกเลิกการเกณฑ์ทหารทั้งหมด แต่เราเสนอว่าภายใต้งบประมาณเท่าเดิมนั้น หากเปลี่ยนวิธีในการสรรหากำลังพล ปรับการใช้เงินตรงนี้ไปเพิ่มประสิทธิภาพของยุทโธปกรณ์ เน้นการใช้เทคโนโลยีใหม่แทนกำลังพล จะทำให้กองทัพไทยมีประสิทธิภาพและมีกำลังทัดเทียมประเทศอื่นๆ