นายอธิรัฐ รัตนเศรษฐ รมช.คมนาคม เปิดเผยว่า ตามที่พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีในฐานะผู้อำนวยการกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ ได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเตรียมพร้อมรองรับสถานการณ์น้ำและป้องกันผลกระทบที่จะเกิดขึ้นแก่ประชาชนในช่วงฤดูฝน ดังนั้นตนจึงได้มอบหมายให้กรมเจ้าท่าจัดทำแผนและเตรียมความพร้อมรับมืออุทกภัยในฤดูฝนปี 2564
ทั้งการจัดตั้งศูนย์ช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยกรมเจ้าท่า ภาค 1 – 7 โดยแบ่งเป็น ศูนย์ช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยกรมเจ้าท่า ภาค1 รับผิดชอบ 17 จังหวัด (เชียงใหม่ ลำปาง แม่ฮ่องสอน ลำพูน นครสวรรค์ กำแพงเพชร พิจิตร อุทัยธานี เชียงราย พะเยา พิษณุโลก ตาก สุโขทัย เพชรบูรณ์ แพร่ อุตรดิตถ์ น่าน) ,ศูนย์ช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยกรมเจ้าท่า ภาค2 รับผิดชอบ 9 จังหวัด (พระนครศรีอยุธยา อ่างทอง สิงห์บุรี สุพรรณบุรี ชัยนาท ลพบุรี สระบุรี นนทบุรี ปทุมธานี)
ศูนย์ช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยกรมเจ้าท่า ภาค3 รับผิดชอบ 7 จังหวัด (สมุทรสงคราม ประจวบคีรีขันธ์ กาญจนบุรี สมุทรสาคร เพชรบุรี นครปฐม ราชบุรี) ,ศูนย์ช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยกรมเจ้าท่า ภาค4 รับผิดชอบ 8 จังหวัด (สงขลา พัทลุง ปัตตานี ยะลา สุราษฎร์ธานี ชุมพร นครศรีธรรมราช นราธิวาส) ,ศูนย์ช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยกรมเจ้าท่า ภาค5 รับผิดชอบ 6 จังหวัด (ภูเก็ต ตรัง กระบี่ ระนอง พังงา สตูล) ,ศูนย์ช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยกรมเจ้าท่า ภาค6 รับผิดชอบ 9 จังหวัด (ชลบุรี ฉะเชิงเทรา ปราจีนบุรี นครนายก ระยอง จันทบุรี สระแก้ว ตราด สมุทรปราการ) ,ศูนย์ช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยกรมเจ้าท่า ภาค7 รับผิดชอบ 20 จังหวัด (หนองคาย เลย อุดรธานี หนองบัวลำภู บึงกาฬ อุบลราชธานี อำนาจเจริญ ศรีสะเกษ ยโสธร นครราชสีมา ชัยภูมิ บุรีรัมย์ สุรินทร์ นครพนม มุกดาหาร สกลนคร ขอนแก่น ร้อยเอ็ด มหาสารคาม กาฬสินธุ์)
นอกจากนั้นได้จัดเตรียมกำลังเจ้าหน้าที่รวม 689 นาย เรือตรวจการณ์ เรือท้องแบน เรือเจ็ตสกี รวม 92 ลำ รถยนต์ 128 คัน รถบรรทุก 6 คัน โดยให้แต่ละศูนย์ฯ ประสานงานกับหน่วยงานจังหวัด องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ที่ขอรับการสนับสนุน หรือได้รับการประสานจากในพื้นที่โดยตรง ให้ทุกศูนย์ฯ จัดกำลังเจ้าหน้าที่พร้อมให้ความช่วยเหลือประชาชนได้ทันที
นายอธิรัฐ กล่าวต่อว่า ยังได้ดำเนินการขุดลอกและบำรุงรักษาทางน้ำตามแผนบริหารจัดการน้ำเพื่อป้องกันปัญหาอุทกภัย รวมทั้งให้จัดเตรียมรถขุด(Backhoe) จำนวน 32 คัน สำหรับการขุดลอกเปิดร่องน้ำ เปิดทางน้ำ ระบายน้ำในพื้นที่ ให้น้ำสามารถไหลผ่านได้อย่างสะดวก ทั้งนี้ ตนได้เน้นย้ำให้ทุกศูนย์ฯ เตรียมความพร้อมในการให้ความช่วยเหลือประชาชน หากเกิดสถานการณ์รุนแรงเกินที่จะรับมือได้ให้เร่งประสานความร่วมมือจากจังหวัด สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อบูรณาการให้ความช่วยเหลือประชาชนได้ทันท่วงที
