องคมนตรีประชุมติดตามโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

  • รวม 88 โครงการ เร่งเดินหน้า 14 โครงการ
  • บริหารจัดการน้ำให้ภาคอีสาน
  • กรมชลประทานน้อมนำศาสตร์พระราชาแก้ไขปัญหาน้ำ

วันนี้ (15 มกราคม 2563) เวลา 09.30 น. นายจรัลธาดา กรรณสูต องคมนตรี และ นายอำพน กิตติอำพน องคมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะอนุกรรมการติดตามและขับเคลื่อนโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริในเขตพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดยมี นายประพิศ จันทร์มา รองอธิบดีกรมชลประทาน นายชัยวัฒน์ ชื่นโกสุม ผู้ว่าราชการจังหวัดเลย พร้อมด้วยผู้บริหารระดับสูง และคณะอนุกรรมการติดตามและขับเคลื่อนโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริฯ เข้าร่วมประชุม พร้อมทั้งรายงานผลการดำเนินงานและความก้าวหน้าในด้านต่างๆ ณ ห้องประชุมศาลากลางจังหวัดเลย อำเภอเมือง จังหวัดเลย

การประชุมในครั้งนี้ ได้รับทราบผลการสรุปภาพรวมโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ในพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร จำนวน 88 โครงการ รวมไปถึงสถานะโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริในเขตพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ที่ได้ดำเนินงานติดตามและขับเคลื่อนฯ จำนวน 14 โครงการ และสถานการณ์น้ำในเขตลุ่มน้ำเลย ซึ่งกรมชลประทานได้สรุปชี้แจงประเด็นต่างๆ ที่เกี่ยวข้องในเรื่องของการบริหารจัดการน้ำในพื้นภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และการดำเนินโครงการในการพัฒนาพื้นที่ลุ่มน้ำเลย ทั้ง 8 โครงการ เพื่อเพิ่มปริมาณเก็บกักน้ำให้กับราษฎรในพื้นที่ได้อย่างเพียงพอในอนาคต โดยน้อมนำศาสตร์พระราชามาดำเนินการแก้ไขปัญหา โดยต้นน้ำใช้การตัดยอดน้ำเพื่อเก็บกักน้ำ กลางน้ำใช้การหน่วงน้ำ และปลายน้ำระบายออกสู่ลำน้ำโขง ในการนี้ นายจรัลธาดา และ นายอำพน ได้เน้นย้ำให้ทุกหน่วยงานร่วมกันบูรณาการเพื่อผลักดันให้โครงการต่างๆ สามารถดำเนินการไปได้ตามแผนที่กำหนด

จากนั้นในเวลา 14.00 น. นายจรัลธาดา กรรณสูต องคมนตรี และ นายอำพน กิตติอำพน องคมนตรีลงพื้นที่ติดตามการดำเนินงานโครงการอ่างเก็บน้ำน้ำเลย อันเนื่องมาจากพระราชดำริ โดยมี นายประพิศ จันทร์มา รองอธิบดีกรมชลประทาน ให้การต้อนรับพร้อมทั้งรายงานบรรยายสรุปโครงการอ่างเก็บน้ำน้ำเลย อันเนื่องมาจากพระราชดำริ พร้อมทั้งตรวจเยี่ยมโครงการฯ ณ โครงการอ่างเก็บน้ำน้ำเลย อันเนื่องมาจากพระราชดำริ ตำบลแก่งศรีภูมิ อำเภอภูหลวง จังหวัดเลย ตามที่พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ทรงมีพระราชดำริเมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน 2520 ให้กรมชลประทานพิจารณาวางโครงการชลประทานลุ่มแม่น้ำเลย โดยพิจารณาวางโครงการเขื่อนเก็บน้ำน้ำเลย (บ้านหัวกะโปะ) เขื่อนเก็บกักน้ำน้ำทบ (บ้านโพนงาม) และเขื่อนเก็บกักน้ำน้ำลาย (บ้านภูบ่อบิด) เพื่อจัดหาน้ำให้ราษฎรในลุ่มน้ำเลยทำการเพาะปลูกได้ทั้งในฤดูฝนและฤดูแล้ง และมีน้ำใช้เพื่อการอุปโภคบริโภคได้ตลอดทั้งปี โดยเฉพาะอย่างยิ่งควรพิจารณาสร้างฝายน้ำหรือเขื่อนทดน้ำตามความเหมาะสมในลำน้ำเลยตอนล่าง เพื่อส่งน้ำให้กับพื้นที่เพาะปลูกผืนใหญ่สองฝั่งแม่น้ำเลย ในเขตอำเภอเชียงคานโดยระบายน้ำจากเขื่อนเก็บกักน้ำในลุ่มน้ำเลยตอนบน มาเสริมปริมาณน้ำธรรมชาติที่ฝายทดน้ำหรือเขื่อนทดน้ำตอนล่าง

ซึ่งกรมชลประทานได้น้อมนำแนวพระราชดำริและศาสตร์พระราชา ไปใช้ในการพัฒนาแหล่งน้ำลุ่มแม่น้ำเลย ทั้งต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ โดยบริเวณต้นน้ำมีการวางแผนสร้างอ่างเก็บน้ำจำนวน 8 โครงการ เพื่อเพิ่มปริมาณเก็บกักน้ำ บริเวณกลางน้ำมีการสร้างฝาย จำนวน 6 ฝาย เพื่อใช้ในการหน่วงน้ำและบริเวณปลายน้ำมีการดำเนินโครงการประตูระบายน้ำศรีสองรัก อันเนื่องมาจากพระราชดำริ ซึ่งจะช่วยเร่งระบายน้ำในแม่น้ำเลยลงแม่น้ำโขง ส่วนช่วงน้ำโขงหนุน ประตูจะปิดบานกั้นน้ำโขงไม่ให้ไหลเข้ามาในแม่น้ำเลยอีกทางหนึ่ง