หุ้นสหรัฐคึกรับจ่อลดดอกเบี้ย ดาวโจนส์-เอสแอนด์พี 500 ทำลายสถิติต่อเนื่อง

  • ดาวโจนส์พุ่งกว่า 227 จุดทะลุ 27,000 จุดครั้งแรก
  • เอสแอนด์พี 500 สดใส ปิดใกล้ 3,000 จุด
  • ปัจจัยบวกเฟดจ่อลดดอกเบี้ย-เลิกคุมราคายา

ทำลายสถิติอีกรอบ ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ ดีดตัวทะลุ 27,000 จุดเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ ปิดตลาดสามารถทะลุขึ้นไปที่ 27,088.08 จุด พุ่งขึ้นแรง 227.88 จุด หรือ +0.85%

ขณะที่ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปิดใกล้ทะลุ 3,000 จุด โดยปิดที่ 2,999.91 จุด เพิ่มขึ้น 6.84 จุด หรือ +0.23% ขณะที่ดัชนี แนสแด็ก ชะลอตัวลงเล็กน้อยตามหุ้นไบโอเทค ปิดที่ 8,196.04 จุด ลดลง 6.49 จุด หรือ -0.08%

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นกว่า 200 จุด คืนวันที่11 ก.ค. โดยได้แรงหนุนจากการที่นายเจอโรม พาวเวลล์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ยังคงส่งสัญญาณปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนก.ค. ในระหว่างการแถลงต่อวุฒิสภา
เช่นเดียวกับการแถลงต่อคณะกรรมาธิการบริการการเงินประจำสภาผู้แทนราษฎรเมื่อวันก่อนหน้า

โดยนักลงทุนมีความเชื่อมั่นมากขึ้นว่าเฟดจะลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมสิ้นเดือนนี้ถึง 0.5% หลังอัตราเงินเฟ้อทั่วไปในเดือน มิ.ย.เพิ่มขึ้น 1.6% เมื่อเทียบกับระยะเดียวกันปีก่อน ซึ่งต่ำกว่าเป้าหมายของเฟดที่ 2%

ขณะที่หุ้นกลุ่มธุรกิจประกันสุขภาพพุ่งขึ้น หลังจากคณะทำงานของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้ตัดสินใจยกเลิกแผนการควบคุมราคายาตามใบสั่งแพทย์ และหุ้นกลุ่มธนาคารปรับตัวขึ้นหลังจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐที่ดีดตัวขึ้น

โดยหุ้นกลุ่มธุรกิจประกันสุขภาพพุ่งขึ้น นำโดยหุ้นซิกน่า คอร์ป ทะยานขึ้น 9.2% หุ้นยูไนเต็ดเฮลธ์ กรุ๊ป พุ่งขึ้น 5.5% หุ้นซีวีเอสเฮลธ์ พุ่งขึ้น 4.6% และหุ้นเอชซีเอ เฮลธ์แคร์ ปรับตัวขึ้น 1.44% หลังจากคณะทำงานของปธน.ทรัมป์ได้ตัดสินใจยกเลิกแผนการควบคุมราคายาตามใบสั่งแพทย์ หลังจากที่ก่อนหน้านี้ คณะทำงานได้กำหนดว่าบริษัทประกันสุขภาพจะต้องนำเงินหลายพันล้านดอลลาร์ที่ได้รับจากบริษัทผลิตยา คืนให้กับผู้ป่วยในโครงการประกันสุขภาพ “เมดิแคร์”

อย่างไรก็ดี หุ้นบริษัทผลิตยาได้รับแรงกดดันจากข่าวดังกล่าว โดยหุ้นไฟเซอร์ ร่วงลง 2.4% หุ้นเมอร์ค แอนด์ โค ดิ่งลง 4.5% ขณะที่ดัชนีหุ้นกลุ่มไบโอเทค ซึ่งอยู่ในตลาดหุ้นแนสแด็ก ร่วงลง 1.5%

ขณะที่หุ้นกลุ่มธนาคารปรับตัวขึ้นหลังจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐดีดตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ หุ้นโกลด์แมน แซคส์ พุ่งขึ้น 2.6% หุ้นมอร์แกน สแตนลีย์ เพิ่มขึ้น 2.01% หุ้นเจพีมอร์แกน เชส เพิ่มขึ้น 0.9% หุ้นซิตี้กรุ๊ป เพิ่มขึ้น 0.6% และหุ้นแบงก์ ออฟ อเมริกา พุ่งขึ้น 1.2%