ส.อ.ท.-หอการค้าไทย​ หวั่นรัฐบาลใหม่ไม่มีเสถียรภาพ​กระทบความเชื่อมั่น

  • หวังทุกภาคส่วนยอมรับผลเลือกตั้ง
  • เชื่อรัฐบาลใหม่ เป็นรัฐบาลผสม
  • ชี้หากรัฐบาลใหม่มาก.ย. จีดีพีอาจลดลง

นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการหอการค้าไทย และสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า หากมีการจัดตั้งรัฐบาลได้เร็ว ก็จะสามารถขับเคลื่อนประเทศ และตอบสนองต่อสถานการณ์เศรษฐกิจในปัจจุบันได้อย่างทันท่วงที ดังนั้นต้องสามารถตกลงแนวทางการทำงานและนโยบายของพรรคร่วมให้ชัดเจนและลงตัว ไม่เกิดความขัดแย้ง และต้องมีเสถียรภาพ ซึ่งที่ผ่านมาต่างก็มีรัฐบาลผสมที่สามารถบริหารประเทศไปได้

“หวังว่าทุกภาคส่วนจะยอมรับผลการเลือกตั้งในครั้งนี้ เพื่อให้ประเทศสามารถเดินหน้าต่อไปได้ตามระบอบประชาธิปไตย ส่วนการจัดตั้งรัฐบาลนั้น เชื่อว่าน่าจะออกมาในรูปแบบรัฐบาลผสม และควรเร่งจัดตั้งให้แล้วเสร็จตามกรอบของระยะเวลา เพราะหากมีการจัดตั้งรัฐบาลชุดใหม่ล่าช้า จะยิ่งส่งผลกระทบต่อทั้งความเชื่อมั่น และการเติบโตทางเศรษฐกิจ โดยเฉพาะกับนักลงทุนต่างชาติที่จะเข้ามาลงทุน รวมถึงการจัดสรรงบประมาณและนโยบายขับเคลื่อนเศรษฐกิจที่รอให้รัฐบาลชุดใหม่เข้ามาเร่งดำเนินการ”

ด้านนายเกรียงไกร เธียรนุกุล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าวว่า​ การเลือกตั้งครั้งนี้แข่งขันกันทุกรูปแบบ และกว่าจะฟอร์มทีมรัฐบาลได้ จากเดิมคาดว่าจะเป็นช่วงเดือน ส.ค. 2566 ตามที่คณะกรรมการร่วมเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) คาดการณ์จะทำให้จีดีพีปีนี้ขยายตัว 3.0-3.5% แต่สภาวะแบบที่ไม่มีใครยอมใคร คิดว่ากว่าจะต่อรองกันใช้เทคนิคต่าง ๆ น่าจะใช้เวลาเกินกว่านั้น ถ้าเป็นอย่างที่คาดการณ์ ก.ย. 2566 ได้รัฐบาล ก็อาจจะต้องปรับลดประมาณการจีดีพีลง

“ที่ผ่านมา 5-6 เดือน ตัวเลขส่งออกไทยยังติดลบ เป็นการส่งสัญญาณว่า ตลาดโลกยังมีความอ่อนไหวค่อนข้างมาก ถ้าภายในประเทศเข้มแข็งก็ยังพอที่จะไปสู้ได้ แต่ถ้าในประเทศเราไม่เข้มแข็งแล้ว สิ่งเหล่านี้ก็จะทำให้ไทยเจอ 2 เด้ง”

ส่วนในกรณีรัฐบาลพลิกขั้ว สิ่งที่น่ากังวลที่สุดคือ ความไม่มีเสถียรภาพของการจัดตั้งรัฐบาล ซึ่งส่งผลทั้งตัวเม็ดเงินลงทุนโครงการใหญ่ในช่วงการฟื้นฟูเศรษฐกิจ ทั้งยังส่งผลต่อความเชื่อมั่นนักลงทุนแน่นอน เพราะกลัวรัฐบาลที่ได้มาจะอยู่ได้ไม่นาน หรืออาจมีปัญหา