สุริยะ ยกเครื่องบริการ กระทรวงอุตสาหกรรม

  • เร่งพัฒนา iSingleForm ระบบแจ้งข้อมูลโรงงาน
  • ในแบบฟอร์มเดียวผ่านระบบออนไลน์
  • ปฏิรูปการทำงานสู่ยุคดิจิทัล

นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.อุตสาหกรรมเปิดเผยว่า กระทรวงฯได้เร่งขยายการบริการให้ครอบคลุมส่วนงานด้านข้อมูลการประกอบกิจการโรงงาน โดยมอบให้สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) พัฒนาจัดทำและเปิดใช้งานแพลตฟอร์มiSingleform ขึ้น เพื่อเป็นช่องทางการบริการแจ้งข้อมูลของผู้ประกอบการให้แก่หน่วยงานต่าง ๆ ภายในกระทรวงฯให้เหลือเพียงแบบฟอร์มเดียวเพื่อเร่งยกระดับการบริการของกระทรวงฯเข้าสู่ระบบออนไลน์ให้ครอบคลุมในทุกมิติเพื่อขับเคลื่อนการเป็นรัฐบาลดิจิทัล (Digital Government)

ทั้งนี้ในปัจจุบันกระทรวงฯ ได้เปิดให้บริการผ่านระบบออนไลน์ในหลายบริการ อาทิ บริการด้านใบอนุญาต บริการยื่นขอมาตรฐานผลิตภัณฑ์ชุมชนและบริการใบแจ้งการชำระค่าธรรมเนียมรายปี ซึ่งจะเป็นการลดภาระผู้ประกอบการในการเดินทางมาติดต่อหน่วยงานราชการ

สำหรับการยกระดับภาคอุตสาหกรรมไทยเข้าสู่อุตสาหกรรม 4.0 เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน ภาครัฐได้ทยอยพัฒนาปัจจัยแวดล้อมให้พร้อม อาทิโครงสร้างพื้นฐานด้านการสื่อสารและคมนาคม การปรับกฎระเบียบให้ทันสมัย รวมทั้งการบริการของภาครัฐที่ต้องยกระดับให้สอดคล้องกับการทำงานในยุคชีวิตวิถีใหม่ (New Normal) ซึ่งมีความคุ้นชินในการทำธุรกรรมออนไลน์โดยไม่ต้องเดินทางไปยังสถานที่ราชการเพื่อขอรับบริการ สามารถแจ้งข้อมูลได้ทุกที่ทุกเวลา โดยได้ตั้งเป้าหมายให้ผู้ประกอบการโรงงานแจ้งข้อมูลผ่านแพลตฟอร์ม iSingleForm อย่างทั่วถึงและครอบคลุมผู้ประกอบการในทุกขนาดและทุกพื้นที่มากขึ้นเพื่อสนับสนุนการสร้างกรอบตัวอย่าง (Sampling Frame) ที่ทันสมัยและมีมาตรฐานร่วมกัน ช่วยลดการสำรวจข้อมูลที่ซ้ำซ้อนภายในหน่วยงานต่างๆของกระทรวงฯและสามารถนำข้อมูลไปใช้ในการพัฒนาอุตสาหกรรมในด้านต่าง ๆ ได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ

นายสุริยะกล่าวว่าระบบ iSingleForm จะทำให้ให้ผู้ประกอบการสามารถแจ้งข้อมูลตามแบบฟอร์มเดียวซึ่งได้รวบรวมข้อคำถามจากหน่วยงานต่าง ๆ ภายในกระทรวงฯ ไว้ในแบบฟอร์มเดียวเพื่อลดภาระการแจ้งข้อมูล ไม่ให้เกิดความความซ้ำซ้อนโดยข้อมูลที่ผู้ประกอบการได้แจ้งมาจะถูกนำมาวิเคราะห์ข้อมูลและจัดทำเป็นผลการประเมินสถานภาพของสถานประกอบการเป็นประจำทุกเดือนตามข้อมูลที่ได้แจ้งเข้ามาซึ่งจะได้รับผลการวิเคราะห์สถานะของกิจการตนเองในแง่มุมต่าง ๆ อาทิ ประสิทธิภาพการผลิต ความสามารถในการจำหน่าย ความสามารถในการบริหารต้นทุน โดยเปรียบเทียบกับผู้ประกอบการในภาคอุตสาหกรรมทั้งหมด และในรายสาขาอุตสาหกรรม เพื่อให้ผู้ประกอบการนำผลการวิเคราะห์ไปใช้ประโยชน์

นอกจากนี้ ผู้ประกอบการที่แจ้งข้อมูลอย่างต่อเนื่องจะได้รับแจ้งสิทธิประโยชน์ต่าง ๆ เช่น สินเชื่อในอัตราดอกเบี้ยพิเศษจากธนาคารที่ลงนามในบันทึกความเข้าใจร่วมกัน กับสศอ. ซึ่งในปัจจุบันมี 2 ธนาคาร คือ ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) และธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย ,ได้รับแจ้งสิทธิการเข้ารับคำปรึกษาเพื่อการพัฒนาสถานประกอบการ และการเข้าร่วมโครงการต่าง ๆ ในการเพิ่มประสิทธิภาพสถานประกอบการโรงงานเป็นต้น