“สุริยะ-มนพร-สุรพงษ์” ถือฤกษ์ดี 09.00 น. ควงแขนกันไหว้สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำกระทรวงคมนาคม

  • ลั่น!เดินหน้านโยบายรถไฟฟ้า 20 บาท ตลอดสาย
  • พร้อมเร่งหารือ ทอท.-กพท.-บวท. กระทรวงกลาโหม หวังเพิ่มสลอตการบินให้เพิ่มขึ้น
  • เดินหน้าโครงการเมกะโปรเจคที่รัฐบาลเดิมทำค้างไว้ก็พร้อมสานต่อ

ผู้สื่อข่าวรายงานจากกระทรวงคมนาว่า วันนี้ 7 ก.ย.66) เวลาประมาณ 09.00 น. นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจรมว.คมนาคม พร้อมด้วย นางมนพร เจริญศรี รมช.คมนาคม ,นายสุรพงษ์ ปิยะโชติ รมช.คมนาคม ได้เข้ากระทรวงคมนาคม เป็นวันแรก โดยได้เข้าสักการะองค์พระพุทธคมนาคมบพิธ และไหว้ศาลพ่อปู่กระทรวงคมนาคม และสิ่งศักดิ์สิทธิประจำกระทรวงคมนาคม หลังจากนั้นให้หน่วยงานในสังกัดกระทรวงคมนาคมพบปะ ทั้งนี้บรรยากาศในการเข้ามากระทรวงคมนาคมครั้งนี้พบว่ามีนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รองนายกรัฐมนตรี และบรรดา ส.ส. ในสังกัดพรรคเพื่อไทยจำนวนมากกว่า 100 คน มารอต้อนรับ และมอบดอกไม้แสดงความยินดี

โดยนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.คมนาคม กล่าวว่า การเข้ามารับตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมครั้งนี้ถือเป็นครั้งที่ 2 แต่ก็อดตื่นเต้นไม่ได้ เมื่อเช้าตื่นตั้งแต่ ตี 05.00 น. เพื่อเตรียมที่จะเข้ามารับตำแหน่ง โดยนโยบายเร่งด่วนที่จะดำเนินการนั้น ยืนยันว่า โครงการรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย ตนจะเร่งผลักดันให้เกิดเป็นรูปธรรมและปฎิบัติได้จริง แต่นโยบายดังกล่าวเกี่ยวข้องกับหลายๆหน่วยงานดังนั้นจึงขอหารือให้เกิดความรอบรอบ นอกจากนั้นจะมีการเร่งรัดนโยบายเพิ่มตารางการบิน(สลอตการบิน) ให้เข้ามาประเทศไทยเพิ่มขึ้น ซึ่งเรื่องนี้ในเบื้องต้นได้มีการหารือนอกรอบกับนายสุทิน คลังแสง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ไปแล้ว เพื่อขอใช้ตารางการบินที่ทางกองทัพอากาศไม่ได้ใช้มาให้เครื่องบินเชิงพาณิชย์ใช้ ซึ่งเรื่องนี้จะมีการหารือร่วมกับ บริษัท ท่าอากาศยานไทยจำกัด (มหาชน) สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) ,บริษัท วิทยุการบินแห่งประเทศไทย (บวท.)รวมถึงกระทรวงกลาโหมอีกครั้ง

สำหรับสาเหตุที่ต้องนโยบายเพิ่มสลอตการบินมาพิจารณาเร่งด่วน เนื่องจากขณะนี้พบว่าอุตสาหกรรมการบินมีการเติบโตแบบก้าวกระโดด หลายสายการบินกลับมาทำการบิน เพิ่มเที่ยวบิน หากมีการปรับสลอตการบินให้เที่ยวบินสามารถบินเข้ามาประเทศไทยเพิ่มขึ้นในช่วงห้วงอากาศความมั่นคงที่ทางทหารดูแลแต่ไม่ได้ใช้ ก็จะช่วยเพิ่มช่องทางการขนปริมาณผู้โดยสารเพิ่มขึ้น เช่น หากสามารถเพิ่มเที่ยวบินได้ 100 เที่ยวบิน ก็จะสามารถขนปริมาณผู้โดยสารเข้าประเทศได้เพิ่มขึ้นอีกกว่า 10,000 คน เป็นต้น

นายสุริยะ กล่าวต่อว่า นอกจากนั้นในส่วนของการต่อยอดสานต่อในโครงการเมกะโปรเจคที่กระทรวงคมนาคมได้มีการศึกษา และดำเนินการอยู่นั้น ตนก็จะเร่งให้มีการสานต่อ ทั้งรถไฟฟ้าหลากสี และรถไฟฟ้าสายสีส้ม ส่วนโครงการใดที่กำลังดำเนินการอยู่ก็จะเร่งรัดให้ดำเนินการให้แล้วเสร็จ ขณะเดียวกันจะเดินหน้าโครงการที่เตรียมจะเปิดประมูลโดยจะสนับสนุนเร่งรัดให้มีการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานระบบรางมากขึ้น เนื่องจากพบว่าระบบโลจิสติกส์ในประเทศที่เจริญแล้วมีสัดส่วนการลงทุนในระบบโลจิสติกส์เพียง 9% ของจีดีพี ขณะที่ประเทศไทยมีสัดส่วนลงทุนในระบบโลจิสติกส์ 15% ของจีดีพี

ด้านนางมนพร เจริญศรี รมช. คมนาคม เผยว่า พร้อมรับผิดชอบหน่วยงานตามที่ รมว.คมนาคม มอบหมาย จะไม่มีการต่อรอง หรือเกี่ยงว่าจะได้ดูแลรับผิดชอบหน่วยงานอะไร เพราะเชื่อว่าในเมื่อมารับตำแหน่งแล้วหากได้รับหน่วยงานที่กำกับดูแลก็สามารถที่จะเรียนรู้งานสิ่งใหม่ๆได้ ส่วนที่ว่าจะกำหนดเป้าหมายในการทำงานอย่างไรนั้น ในเรื่องนี้มองว่า กระทรวงคมนาคมเป็นหน่วยงานที่รองรับการบริการประชาชน ขณะเดียวกันหน่วยงานในสังกัดกระทรวงคมนาคมยังสามารถสนับสนุนและรองรับการท่องเที่ยวได้ ดังนั้นตนก็จะทำงานให้ทุกคนมองว่า กระทรวงคมนาคมเป็น “ ราชรถยิ้ม” ขณะเดียวกันนายกรัฐมนตรี ได้เน้นย้ำให้รัฐมนตรีทุกท่านปฎิบัติงานด้วยความซื่อสัตย์ สุจริตโปร่งใส ไม่มีการซื้อขายคำแหน่ง และการทำงานจะต้องให้เกียรติจ้าราชการทุกคนที่ร่วมงานด้วย

ด้านนายสุรพงษ์ ปิยะโชติ รมช.คมนาคม กล่าวว่า พร้อมที่จะเข้าทำงานทันทีภายหลังจากที่รัฐบาลแถลงนโยบาย ส่วนที่มีกระแสข่าวว่าได้เข้ามารับตำแหน่งเพราะมีกลุ่มทุนระบบรางเป็นคนผลักดันให้เข้ามากำกับดูแลหน่วยงานระบบรางนั้น ในเรื่องนี้ตนมองว่าจะได้หน่วยงานไหนมากำกับดูแลก็ไม่มีปัญหา แต่หากได้อาจจะเป็นเพราะว่า ผมเก่ง