- คาด 18 เดือนข้างหน้าเศรษฐกิจไทยเข้าสู่ภาวะปกติ
- ยันไม่มีล็อคดาวน์ประเทศรอบสอง
- โว นายกฯ ริเริ่มโครงการคนละครึ่ง
นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน กล่าวหลังมอบนโยบายผู้บริหารกระทรวงการคลังว่า คาดว่าเศรษฐกิจไทยจะดีขึ้นเรื่อยๆ สะท้อนจากภาคการส่งออก และการบริโภคที่ดีขึ้น โดยในปีนี้ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ(จีดีพี) จะติดลบน้อยกว่าที่สถาบันต่างๆ คาดการณ์ว่าโควิด-19 จะทำเศรษฐกิจติดลบ 9-10% อย่างไรก็ตามปีหน้าเศรษฐกิจจะกลับมาเติบโตที่ 3.5-4% และจะกลับเข้าสู่ภาวะปกติไม่ติดลบภายใน 12-18 เดือน ส่วนเงินกู้จากพระราชกำหนด(พรก.)จำนวน 1 ล้านล้านบาทนั้นยังเพียงพอสำหรับการดูแลเศรษฐกิจในปีหน้าโดยไม่ต้องกู้เงินเพิ่มเติม
นอกจากนี้ประเทศต้องมีการเปลี่ยนโครงสร้างเศรษฐกิจ โดยปรับเปลี่ยนไปสู่อุตสาหกรรมแบบใหม่ กระทรวงการคลังจะต้องร่วมมือกับสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) ผลักดัน 10 อุตสาหกรรมเป้าหมาย อาทิ หุ่นยนต์เพื่ออุตสาหกรรม อุตสาหกรรมการบินดิจิทัล เป็นต้น รวมถึงพัฒนา โครงการพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก(อีอีซี) ควบคู่ไปด้วย เพื่อให้เกิดเป็นอุตสาหกรรมที่ยั่งยืนภายในประเทศ ซึ่งจะสร้างโอกาสการลงทุน ทั้งนักลงทุนจากในและต่างประเทศ
“กรณีที่มีคนกังวลว่าการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในภาคเหนือจะทำให้เกิดการระบาดรอบที่ 2 นั้น ผมมองว่าประชาชนกลัวมากไป และยกเลิกจองโรงแรมแถบภาคเหนือเอง ทำไมต้องกลัวคนติดโควิด-19 แค่คนสองคนเท่านั้น ส่วนใครที่เข้าร่วมเราเที่ยวด้วยกัน เมื่อจองโรงแรมไปแล้วระบบก็จะตัดเงินอยู่แล้วยังไงโรงแรมก็ได้เงิน และมองว่ายังไม่เกิดการระบาดรอบสองแน่นอน จึงจะไม่มีการล็อคดาวน์ประเทศ”
ส่วนโครงการคนละครึ่งในเรื่องของการใช้เงินวันละ 150 บาทต่อวันนั้น เป็นสิ่งที่นายกรัฐมนตรีริเริ่ม โดยคิดจากค่าแรงขั้นต่ำ 300 บาทต่อวัน โดยมองว่าช่วงโควิด-19 แรงงานทำงานน้อยลงและไม่ค่าทำงานล่วงเวลา จึงคิดว่าควรค่าครองชีพครึ่งหนึ่ง ก็คือ 150 บาท
