สื่ออเมริกัน “เดอะการ์เดียน” ขึ้นโปรยอัดประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ตระหนักถึงอันตรายของไวรัสโควิด19 แต่การขาดความเป็นภาวะผู้นำได้สร้างมหากาพย์ใหญ่หลวงขึ้นมา
นับตั้งแต่วันที่ 20 มกราคม 2020 ชายวัย 35 ปีจากรัฐวอชิงตันเพิ่งกลับจากการไปเยี่ยมครอบครัวที่เมืองอู่ฮั่นในประเทศจีนกลายเป็นรายแรกในสหรัฐอเมริกาที่ถูกตรวจพบเชื้อไวรัส ซึ่งเป็นวันเดียวกันกับประเทศเกาหลีใต้ตรวจพบผู้ติดเชื้อรายแรกเช่นเดียวกัน
แต่จนถึงขณะนี้ความแตกต่างระหว่าง 2 ประเทศเห็นได้ชัดเจน เกาหลีใต้ดำเนินการขันแข็งรวดเร็วทำการคัดกรองและตรวจเชื้อ ขณะสหรัฐยังมีความสับสน ติดหล่นในความโกลาหล ผลัดวันประกันพรุ่ง โดยผู้นำของตนซึ่งขณะนี้กำลังเผชิญกับภาวะวิกฤต
เพียงสัปดาห์แรกตั้งแต่เกิดผู้ป่วยรายแรกขึ้น หน่วยงานควบคุมโรคของเกาหลีใต้ได้เรียกบริษัท เอกชน 20 แห่งให้เข้าร่วมการประชุมด้านการวางแผนเพื่อรับมือกับสงครามเชื้อโรค และบอกให้พวกเขาเร่งพัฒนาการตรวจเชื้อ หนึ่งสัปดาห์ชุดตรวจเชื้อก็ได้รับการอนุมัติและนำไปใช้ทันที
จนถึงขณะนี้ชาวเกาหลีใต้ถูกตรวจเชื้อไปแล้วเกือบ 4 แสนคน และตัวเลขการติดเชื้อมีอัตราเติบโตลดลดลงมาก เมื่อวันที่ 29 มีนาคม เกาหลีใต้มีผู้ป่วนติดเชื้อจำนวน 9,583 ราย เพิ่มขึ้นจากวันก่อนหน้า 105 ราย เสียชีวิต 152 ราย อยู่ในอันดับที่ 11 จากเดิมเคยมีผู้ติดเชื้อมากที่สุดเป็นอันดับสองรองจากจีน
การตอบสนองของทรัมป์มันแตกต่างสิ้นเชิง หลังพบผู้ป่วยรายแรก ทรัมป์ได้โม้ว่า “เราควบคุมมันได้ทั้งหมด คนที่ติดเชื้อมาจากประเทศจีน มันจะไม่เป็นไร”
หนึ่งสัปดาห์หลังจากนั้นมีอดีตผู้บริหารด้านโยบายสุขภาพสหรัฐได้ออกมากระทุ้งว่า ต้องดำเนินการทันทีเพื่อป้องกันภัยพิบัติทางสุขภาพครั้งใหญ่ จะต้องร่วมกับเอกชนเพื่อพัฒนาชุดตรวจไวนัสที่ใช้ง่ายและได้ผลที่รวดเร็ว กล่าวอีกนัยคือคล้ายกับที่เกาหลีใต้ดำเนินการ
เป็นเวลามากกว่า 1 เดือนหลังคำเตือน ในที่สุดทีมของทรัมป์ก็ได้อนุญาตให้เร่งกระบวนการในการผลิตชุดตรวจไวรัส
ล่าสุดสหรัฐมีผู้ป่วยติดเชื้อสูงถึง 123,776 ราย เสียชีวิต 2,229 ราย มากกว่า 1 ใน 4 ของผู้ป่วยอยู่ในมหานครนิวยอร์ค สิ่งที่น่ากังวลก็คือการอัตราการเพิ่มสูงอย่างต่อเนื่อง แต่เมื่อวันที่ 29 มีนาคม จำนวนเพิ่มเริ่มลดลง เพิ่มขึ้นเพียง 198 ราย เท่านั้น
