- มอบสศค.ศึกษาหลักเกณฑ์และเงื่อนไข
- รายได้ครอบครัวไม่เกิน 200,000 บาท
- รายได้บุคคลไม่เกิน 100,000 บาท
นายสันติ พร้อมพัฒน์ รมช.คลัง เปิดเผยภายหลังการประชุมการประชุมคณะกรรมการ ประชารัฐสวัสดิการเพื่อเศรษฐกิจฐานรากและสังคม ว่า ที่ประชุมมีมติเห็นชอบให้ใช้บัตรประจำตัวประชาชนแบบเอนกประสงค์แบบใหม่ หรือสมาร์ทการ์ด แทนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐหรือบัตรคนจน เพื่ออำนวยความสะดวกให้ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐจะได้ถือบัตรเดียว
นอกจากนี้ที่ประชุมยังเห็นชอบให้สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ไปพิจารณาหลักเกณฑ์และเงื่อนไขต่างๆ ให้รอบคอบอีกครั้ง เพื่อช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยให้ตรงจุดมากที่สุด โดยให้นำรายได้ของครอบครัวไม่เกิน 200,000 บาท มาคำนวณด้วยจากเดิมพิจารณารายได้ตัวบุคคล และเมื่อสศค.ได้ข้อสรุปจะมีหารืออีกครั้ง เพื่อนำเสนอคณะรัฐมนตรี(ครม.) พิจารณาเห็นชอบต่อไป โดยคาดว่าจะเปิดให้ประชาชนลงทะเบียนบัตรคนจนรอบใหม่ได้ในช่วงต้นปี2565นี้
สำหรับคุณสมบัติผู้ถือบัตรคนจนเดิม ดังนี้ เป็นผู้มีสัญชาติไทย อายุไม่ต่ากว่า 18 ปีบริบูรณ์ มีรายได้ไม่เกิน 100,000 บาทต่อปี ไม่มีหรือมีทรัพย์สินทางการเงิน ได้แก่ เงินฝากธนาคาร สลากออมสิน สลาก ธ.ก.ส. พันธบัตร ตราสารหนี้ รวมทั้งสิ้นไม่เกิน 100,000 บาท
ขณะเดียวกันต้องไม่เป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ในอสังหาริมทรัพย์ตามกฎหมาย ถ้าเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์บ้านพร้อมที่ดิน จะต้องมีบ้านหรือทาวเฮ้าส์ พื้นที่ไม่เกิน 25 ตารางวา ส่วนห้องชุดต้องมีพื้นที่ไม่เกิน 35 ตารางเมตร ส่วนกรณีเป็นที่อยู่อาศัย และใช้ประโยชน์จากที่ดินเพื่อการเกษตรด้วยมีพื้นที่ได้ไม่เกิน 10 ไร่ หรือในกรณีที่ใช้ประโยชน์ที่ดินเพื่อการอื่นที่ ไม่ใช่เพื่อการเกษตร มีพื้นที่ไม่เกิน 1 ไร่
“ยกตัวอย่างการคำนวณรายได้ครอบครัว คือ สามี มีรายได้ 150,000 บาท ภรรยา มีรายได้ 50,000 บาท รวมกันแล้ว 200,000 บาท ถือว่าสามีและภรรยา มีรายได้เกินคนละ100,000 บาท แต่ถ้ามีลูกอายุต่ำกว่า 18 ปี 1 คน ก็นำรายได้มารวมกันแล้วหาร 3 คน คือ พ่อ แม่ ลูก รวม 200,000 บาท หารแล้วเหลือคนละ 66,666 บาท ผลคือ สามี ไม่ได้บัตรคนจน เพราะมีรายได้เกิน100,000 บาท แต่ภรรยา ได้บัตรคนจน เพราะเข้าเกณฑ์เป็นผู้รับสิทธิบัตรคนจน เพราะรายได้ไม่เกิน 100,000 บาท ส่วนลูกไม่ได้ เพราะอายุต่ำกว่า 18 ปี เป็นเพียงตัวหาร แต่ถ้าลูกอายุเกิน 18 ปี ก็มีสิทธิ์ลงทะเบียนของตัวเอง ”