- ส่งมอบและค้าผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมีของอิหร่านให้หลายชาติ
- เพิ่มแรงกดดันให้อิหร่านทำตามข้อตกลงนิวเคลียร์ปี 58
- หลังการเจราจาสหรัฐฯ-อิหร่านเดือนมิ.ย.เหลวไม่เป็นท่า
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า สหรัฐฯออกมาตรการคว่ำบาตรเครือข่ายบริษัทในจีน สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (ยูเออี) และอื่นๆ ที่ถูกกล่าวหาว่าช่วยส่งมอบและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมและปิโตรเคมีของอิหร่าน ให้กับชาติในเอเชียตะวันออก ถือเป็นการเพิ่มแรงกดดันต่ออิหร่าน ขณะที่พยายามรื้อฟื้นข้อตกลงนิวเคลียร์อิหร่านปี 2558
กระทรวงการคลังสหรัฐฯแถลงว่า เครือข่ายบุคคลและบริษัทหลายแห่งได้ใช้บริษัทเปลือก (shell company บริษัทที่ไม่ได้ทำธุรกิจจริงจัง จดทะเบียนในประเทศที่มีอัตราภาษีต่ำ ซึ่งจดทะเบียนตั้งบริษัท และการถือครองโดยนอมินี มักมีการยักย้ายถ่ายเทรายได้ ทรัพย์สินไปประเทศต้นทาง หรือมีการฟอนเงิน) จำนวนมาก ที่ตั้งอยู่ในอ่าวเปอร์เซีย เพื่ออำนวยความสะดวกในการส่งมอบและจำหน่ายปิโตรเคมีภัณฑ์มูลค่าหลายร้อยล้านเหรียญสหรัฐฯ จากบริษัทอิหร่านไปยังจีนและประเทศอื่นๆ ในเอเชียตะวันออก
ทั้งนี้ รัฐบาลสหรัฐฯเล็งเป้าไปที่บริษัทจีน ที่เกี่ยวข้องกันการส่งออกปิโตรเคมีภัณฑ์ของอิหร่าน ขณะที่แนวโน้มในการรื้อฟื้นข้อตกลงนิวเคลียร์ริบหรี่ลง
ภายใต้ข้อตกลงนิวเคลียร์ดังกล่าว อิหร่านจะต้องกำหนดข้อจำกัดในโครงการนิวเคลียร์เพื่อสกัดกั้นการพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ แลกกับการยกเลิกมาตรการคว่ำบาตรจากสหรัฐ, สหภาพยุโรป และสหประชาชาติ
ก่อนหน้านี้ การเจรจาที่กรุงโดฮา ประเทศกาตาร์ ระหว่างอิหร่านกับสหรัฐฯเกี่ยวกับข้อตกลงนิวเคลียร์อิหร่าน สิ้นสุดลงเมื่อวันพุธที่ 29 มิ.ย.ที่ผ่านมา หลังจากไม่สามารถบรรลุความคืบหน้าอย่างมีนัยสำคัญ
“ขณะที่สหรัฐฯมุ่งมั่นที่จะบรรลุข้อตกลงกับอิหร่าน เพื่อหวังให้อิหร่านกลับไปปฏิบัติตามอีกครั้ง เราจะยังคงใช้อำนาจทั้งหมดที่มีเพื่อบังคับใช้มาตรการคว่ำบาตรกรณีการจำหน่ายปิโตรเลียมและปิโตรเคมีภัณฑ์ของอิหร่าน” นายไบรอัน เนลสัน ปลัดกระทรวงการคลังของสหรัฐฯ ฝ่ายข่าวกรองด้านการก่อการร้ายและการเงินกล่าว
ทั้งนี้ หนึ่งในบริษัทที่ถูกกระทรวงการคลังสหรัฐฯคว่ำบาตร คือ บริษัท แจมปิโตรเคมีคอล ในอิหร่าน ซึ่งถูกกล่าวหาว่า ส่งออกปิโตรเคมีภัณฑ์ไปยังบริษัทต่างๆ ทั่วเอเชียตะวันออก ซึ่งในหลายกรณีพบว่า มีการจำหน่ายให้กับบริษัทที่ถูกสหรัฐฯคว่ำบาตรสำหรับการส่งออกไปยังจีน
