สหรัฐฯถอนทหารจากอัฟกานิสถานจุดชนวนความรุนแรง

A member of Afghan security forces looks at a damaged car at the site of yesterday's night-time car bomb blast in Kabul, Afghanistan August 4, 2021.REUTERS/Stringer

.ผู้นำอัฟกานิสถานกล่าวโทษสหรัฐฯถอนทหาร

.แต่รัฐบาลจะทำสุดความสามารถป้องกันตาลีบัน

.รมต.ต่างประเทศสหรัฐฯให้คำมั่นเราไม่ทิ้งกัน

“อัชราฟ กานี” ประธานาธิบดีอัฟกานิสถาน โทษการถอนทหารของสหรัฐฯและพันธมิตรตะวันตกออกจากอัฟกานิสถาน เป็นตัวเร่งให้เกิดความรุนแรงในประเทศ หลังสถานการณ์สู้รบส่อเลวร้ายลง

ประธานาธิบดีกานี กล่าวต่อสภาผู้แทนราษฎรว่า กระบวนการสันติภาพที่ประเทศเรานำเข้ามาอย่างเร่งรีบ ไม่เพียงล้มเหลวในการสร้างสันติภาพ แต่ยังสร้างความสับสนและความคลุมเครือแก่ประชาชนชาวอัฟกัน การรุกคืบของกลุ่มตาลีบัน เป็นเรื่องที่น่าวิตกกังวล รัฐบาลจะทำอย่างสุดความสามารถ เพื่อป้องกันเมืองเอกในจังหวัดต่างๆ จากการถูกตาลีบันยึดครอง

คำกล่าวครั้งนี้ มีขึ้นหลังช่วงวันที่ผ่านมา นักรบกลุ่มตาลีบันได้เปิดฉากโจมตีขนานใหญ่เมืองลาชการ์ คาร์ กันดาฮาร์ และเฮรัต เมืองเอกของจังหวัดเฮลมานด์ หนึ่งจังหวัดพื้นที่การสู้รบอันดุเดือดระหว่างตาลีบันกับกองกำลังชาติตะวันตก ตลอดสงคราม 2 ทศวรรษที่ผ่านมา โดยมีรายงานว่า สถานีโทรทัศน์และสถานีวิทยุหลักประจำจังหวัด ได้ตกอยู่ภายใต้เงื้อมมือของกลุ่มตาลีบันแล้ว และตาลีบันได้ออกอากาศเพลงศาสนา

นอกจากนี้ สถานีดังกล่าวยังอยู่ห่างจากสำนักงานจังหวัดเฮลมานด์ ที่ยังอยู่ในความดูแลของรัฐบาลเพียง 400 เมตร ซึ่งกองทัพรัฐบาลได้ระดมหน่วยคอมมานโดเข้าพื้นที่หวังพลิกสถานการณ์

ขณะเดียวกันมีรายงานอีกว่า สนามบินกันดาฮาร์ ต้องระงับเที่ยวบินเป็นเวลาหลายชั่วโมง หลังถูกโจมตีด้วยจรวดอาร์พีจี แต่ไม่มีรายงานผู้เสียชีวิต หรือได้รับบาดเจ็บ ซึ่งนักวิเคราะห์ความมั่นคงประเมินว่า หากสนามบินตกอยู่ภายใต้การยึดครองของกลุ่มตาลีบัน เท่ากับว่ากองทัพรัฐบาลในจังหวัด จะถูกตัดขาดจากการส่งกำลังบำรุง ไปจนถึงขาดการโจมตีสนับสนุนทางอากาศ

ก่อนหน้านี้ นายโจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ประกาศขยายเงื่อนไข การรับผู้ลี้ภัยจากอัฟกานิสถานให้ครอบคลุมถึงชาวอัฟกัน ที่ทำงานร่วมกับสื่อมวลชนสหรัฐฯ และองค์กรอิสระที่ได้รับเงินทุนจากรัฐบาลสหรัฐฯ

อย่างไรก็ตาม เมื่อวันที่ 3 ส.ค.ที่ผ่านมา แอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ได้ร่วมหารือทางโทรศัพท์กับประธานาธิบดีกานี พร้อมให้คำมั่นว่า สหรัฐฯจะยืนหยัดเคียงข้างอัฟกานิสถานต่อไป หลังการถอนกำลังทหารของสหรัฐฯ และองค์การนาโต้

ด้านเน็ด ไพรซ์ โฆษกกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ กล่าวว่า บลิงเคน และประธานาธิบดีกานี ยังได้หารือถึงความสำคัญของ “การเร่งกระบวนการเจรจา” และการบรรลุแผนหาข้อยุติทางการเมือง “แบบมีส่วนร่วม” ที่จะเอื้อให้ประชาชนชาวอัฟกัน มีสิทธิ์เลือกผู้นำของตน และช่วยปกป้องแผ่นดินอัฟกันจากการถูกใช้เป็นหมากข่มขู่สหรัฐฯ รวมทั้งประเทศพันธมิตรทั้งหลายในอนาคต

นอกจากนี้ ทั้ง 2 ยังได้ร่วมกันประณามการโจมตีของกลุ่มตาลิบันในหลายพื้นที่ เพื่อขยายอิทธิพลของตนด้วยในช่วงที่ผ่านมา