“สรรพสามิต”​ ไร้ข้อจำกัดเปิดเสรีสุรา

  • ปัจจุบันปลดล็อกเงื่อนไขให้ผู้ผลิตทุกขนาดแล้ว  
  • เผย 7 เดือนรายได้ภาษีสุราเพิ่ม 10%  
  • เหตุเปิดประเทศ ร้านผับบาร์ กลับมาเปิดให้บริการ  

นายเกรียงไกร พัฒนาภรณ์ รองอธิบดีกรมสรรพสามิต ในฐานะโฆษกกรมสรรพสามิต เปิดเผยว่า  นโยบายสุราก้าวหน้าของพรรคก้าวไกล มีสาระสำคัญที่ต้องการปลดล็อกเงื่อนไขให้มีผู้ผลิตรายย่อยและรายใหญ่ให้มากขึ้นนั้น ถือเป็นนโยบายที่สอดคล้องกับนโยบายของกรมสรรพสามิตอยู่แล้ว ดังนั้น หากพรรคก้าวไกล สามารถจัดตั้งรัฐบาลและเดินหน้านโยบายดังกล่าว ทางกรมสรรพสามิต ไม่ได้มีข้อจำกัดในเรื่องดังกล่าวแต่อย่างใด

ทั้งนี้ ปัจจุบัน ผู้ผลิตสุรา จะแบ่งเป็น ผู้ผลิตในระดับชุมชน และรายใหญ่ ซึ่งนับตั้งแต่ต้นเดือนพ.ย.2565 คณะรัฐมนตรี (ครม.)​ได้อนุมัติปลดล็อกให้มีผู้ผลิตตั้งแต่รายกลางขึ้นไปได้ ดังนั้นประเทศไทยจึงมีผู้ผลิตทุกขนาด คือ ตั้งแต่ขนาดเล็ก ขนาดกลาง และ ขนาดใหญ่ โดยรายเล็ก หรือ ในระดับชุมชนนั้น มีผู้ผลิตกว่า 1,000  ราย ส่วนรายกลาง นับตั้งแต่เปิดเงื่อนไขจนถึงขณะนี้ยังไม่มีผู้ผลิตรายกลางยื่นจดทะเบียนเป็นผู้ผลิตเข้ามามากนัก ส่วนรายใหญ่นั้นมีไม่เกิน 5 ราย  โดยมูลค่าตลาดสุราอยู่ที่ 400,000 ล้านบาทต่อไป ซึ่งเป็นระดับคงที่มานานหลายปีแล้ว 

นายเกรียงไกร  กล่าวต่อว่า ส่วนผู้ผลิตเบียร์นั้น  ถือว่า ยังมีข้อจำกัด เพราะการผลิตเบียร์นั้น วิธีการผลิตไม่เหมือนสุรา เพราะจะมีปัญหาเรื่องของน้ำเสีย และสิ่งแวดล้อม หากจะเปิดเสรีแบบทำเองกินเอง อาจต้องดูผลกระทบว่า เป็นอย่างไรบ้าง ซึ่งเรื่องเงื่อนไขนั้น จะมีเงื่อนไขของกรมโรงงาน กระทรวงอุตสาหกรรมมาเกี่ยวข้องด้วย เช่น กรณีโรงงานเบียร์ ถูกจัดผู้ในจำพวกที่ 3 ซึ่งต้องมีเกณฑ์เรื่องของสิ่งแวดล้อมเข้ามาด้วย ขณะที่ สุราไม่มีปัญหาเรื่องน้ำเสีย หรือ สิ่งแวดล้อม

 สำหรับการจัดเก็บรายได้สุราและเบียร์ในรอบ 7 เดือนของปีงบประมาณ 2566 ในส่วนของสุราจัดเก็บได้ 40,300  ล้านบาท หรือ 10% เมื่อเทียบกับปีก่อน สาเหตุที่เพิ่มขึ้นมาก เนื่องจากปีที่แล้วยังปิดประเทศ สถานบันเทิงยังไม่เปิด ทำให้ยอดขายสุราตก รายได้ของเบียร์นั้น อยู่ที่ 54,000  ล้านบาท เพิ่มขึ้นเพียง 3%เมื่อเทียบกับปีก่อน เนื่องจาก ฐานปีที่แล้วอยู่ในระดับใกล้เคียงกัน เพราะเบียร์สามารถหาซื้อได้ในร้านค้าทั่วไป