- ระบุคนที่ออกไปตั้งพรรคใหม่เป็นปัญหาเรื่องรัฐธรรมนูญ
- ย้ำชัดยังจับมือทำงานร่วมกันได้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย พร้อมด้วย น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ เลขาธิการพรรคเพื่อไทย คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย รวมทั้งแกนนำ และส.ส.พรรค ได้มีการแถลงข่าวร่วมกัน
นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกระแสข่าวกรณีที่มี ส.ส.กลุ่มหนึ่งจะแยกตัวออกไปตั้งพรรคใหม่ เคลื่อนไหวภายใต้ชื่อกลุ่มแคร์ โดยข้องใจที่บุคคลกลุ่มนี้พูดถึงพรรคเพื่อไทยในแง่ลบว่า ในพรรคมีการแบ่งหน้าที่กันชัดเจน ตนดูในส่วนของสภาผู้แทนราษฎร ส่วนคุณหญิงสุดารัตน์ เป็นประธานยุทธศาสตร์พรรค ทั้งตนและคุณหญิงสุดารัตน์ ทำงานประสานกันกลมเกลียว ไม่มีอุปสรรคใดทั้งสิ้นในการทำงานอาจจะมีอะไรติดขัดกันบ้าง แต่ไม่ใช่เป็นเรื่องใหญ่และสามารถแก้ไขได้ ที่ผ่านมาก็เคยพูดคุยกับคนที่ออกไปตั้งพรรคใหม่ ไม่ได้มีปัญหาอะไร และอยากให้เทียบเคียงเหมือนพรรคเพื่อไทย กับพรรคไทยรักษาชาติ ที่เป็นเหมือนเพื่อนกันไม่ได้มีสิ่งใดขัดแย้ง
“มั่นใจว่า ส.ส.138 คนของพรรค ยังไม่ย้ายไปไหน ซึ่งคนที่ออกไปก็คือคนที่อยู่ในระบบบัญชีรายชื่อ หรือปาร์ตี้ลิสต์ จะต้องมีการเตรียมตัวเอาไว้เนื่องจากไม่แน่ใจว่ารัฐบาลจะอยู่นานแค่ไหน” หัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าว
คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวว่า ข้อเท็จจริงในวันนี้ พรรคเพื่อไทยทำงานอย่างกลมเกลียวกัน มีการหารือกัน และต่างคนต่างทำหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายอย่างเข้มแข็ง เพื่อเสริมสร้างให้พรรคมีความแข็งแรง และสามารถเป็นที่พึ่งที่หวังในยามที่ประชาชนกำลังท้อแท้หมดหวังต่อปัญหาที่เกิดขึ้น โดยเฉพาะปัญหาเศรษฐกิจ ซึ่งส่งผลไปสู่ปัญหาอื่น พรรคเพื่อไทยไม่มีเวลามาทะเลาะกันเพราะคนที่ได้รับการเลือกตั้งมาล้วนได้รับการเลือกตั้งมาจากความไว้วางใจของประชาชนและคาดหวังกับพรรคเพื่อไทยในการเป็นปากเสียงแก้ปัญหาให้กับประชาชน จึงรู้สึกไม่สบายใจกับข่าวที่ออกมา และเห็นว่าเป็นแหล่งข่าวที่ออกมาทำลายความเชื่อมั่นของพรรคเพื่อไทยต่อประชาชนทั้งที่ในช่วงสถานการณ์การระบาดของโรคโควิด-19 ทุกคนทำงานอย่างหนัก แม้สภาฯจะปิด
“เราไม่สบายใจกับข่าวที่เกิดขึ้นและอยากทำความเข้าใจกับทุกท่าน ส่วนเรื่องที่พยายามผูกโยงกับสมาชิกที่ออกไปตั้งพรรค ทางพรรคก็ยืนยันมาโดยตลอดว่าเราเข้าใจ ก็มันเป็นรัฐธรรมนูญแบบนี้ กติกากลไกแบบนี้ ต้องการไม่ให้พรรคเพื่อไทยได้ปาร์ตี้ลิสต์ ดังนั้นผู้ที่เป็นนักการเมืองที่จะไปช่วยกันทำงานเพื่อเข้ามาสภาเป็นเรื่องดีทั้งนั้น และเชื่อว่าเขายังอยู่ซีกประชาธิปไตย และเราไม่ได้ขัดข้องอะไรเลย และเป็นเรื่องที่เป็นความจำเป็น จากกติกาที่บิดเบี้ยว รัฐธรรมนูญที่บิดเบี้ยว” คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าว
ด้านนายสุทิน คลังแสง กล่าวว่า ตนในฐานะประธานวิปฝ่ายค้านต้องทำงานร่วมกับส.ส.ทุกคน รวมทั้งหัวหน้าพรรคและประธานยุทธศาสตร์ หากทั้งสองฝ่ายไม่เป็นเอกภาพ คนที่ทำงานยากที่สุดคือตน และคงทำงานไม่ได้เลย แต่ในข้อเท็จจริงแล้วตนทำงานอย่างมีความสุข และไม่สับสน รับปฏิบัติสัญญาณจากพรรคชัดเจน ทั้งหัวหน้าพรรค และประธานยุทธศาสตร์พรรค ก็ได้มอบหมายภารกิจชัดเจน ดังนั้นข่าวที่ปรากฏออกมาจะด้วยแหล่งข่าวใดก็ตาม ก็ขอความเป็นธรรมว่าไม่เป็นความจริง และในฐานะที่สัมผัสกับเพื่อนส.ส.ทุกคน ก็กังวลกับข่าวพรรคเพื่อไทยแย่เป็นที่พึ่งไม่ได้ ถือเป็นความทุกข์ของส.ส.ในพื้นที่จึงจำเป็นต้องชี้แจง
ทั้งนี้ข่าวที่ปล่อยออกมามีเจตนาทำให้พรรคเสียหาย และต้องขอคนที่ออกมาปล่อยข่าวว่าอย่าทำเช่นนี้เลย ตนเข้าใจถึงความจำเป็นของคนที่ต้องออกไปตั้งพรรคใหม่ และเชื่อว่า จะสามารถทำงานร่วมกันในอนาคตได้อีกยาว และเชื่อว่าถ้าไม่มีปัญหารัฐธรรมนูญคงไม่มีใครอยากออกไปและก็ยังมั่นใจว่าจะจับมือทำงานร่วมกันเหมือนเดิม
นายสุทิน กล่าวด้วยว่า อยากให้ดูจากผลการทำงานโดยกลไกในสภาทั้งการอภิปรายเงินกู้ และเรื่องอื่นๆ ยังทำหน้าที่อย่างเต็มระบบในสภา เพราะการประสานภายในพรรค ระหว่างประธานยุทธศาสตร์ และหัวหน้าพรรค
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กลุ่มแคร์ที่มีข่าวเตรียมแยกตัวออกไปตั้งพรรคใหม่ ประกอบด้วยแกนนำ 4 คน คือนายภูมิธรรมเวชยชัย ที่ปรึกษาผู้นำฝ่ายค้าน นายพงษ์ศักดิ์ รักตพงษ์ไพศาล นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช และ นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี
