![E2FACF65-681A-411B-A716-1273F7A1B126](https://thejournalistclub.com/wp-content/uploads/2019/08/E2FACF65-681A-411B-A716-1273F7A1B126-696x443.jpeg)
- ให้ปตท.เร่งดำเนินโครงการปุ๋ยสั่งตัด
- ห้องเย็นเก็บผลไม้ พร้อมใช้ PTT Station
- ดันไทยสู่ผู้นำพลังงานภูมิภาค
นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยหลังการตรวจเยี่ยมและมอบนโยบายกระทรวงพลังงาน ว่า ได้สั่งการให้หน่วยงานรัฐวิสาหกิจในสังกัดกระทรวงพลังงานโดยเฉพาะบริษัท.ปตท. จำกัด(มหาชน) การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย(กฟผ.) สถาบันบริหารกองทุนน้ำมัน ไประดมความเห็นร่วมกัน เพื่อจัดหามาตรการดูแลค่าครองชีพประชาชน ด้านพลังงาน เช่น ค่าบริการที่เรียกเก็บจากบิลค่าใช้บริการต่างๆ และราคาค่าไฟฟ้าฯลฯ
“เป้าหมายหลักๆ ผมต้องการให้กระทรวงพลังงาน มาช่วยลดความเหลื่อมล้ำของประชาชน และเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันของประเทศไทย เพราะขณะนี้ กองทุนน้ำมันมีเงินสะสม 30,000 ล้านบาท ก็จะต้องคิดใหม่ทำใหม่ว่าควรใช้เงินอย่างไรให้เข้ากับสถานการณ์ เพราะขณะนี้ราคาน้ำมันอยู่ในช่วงขาล งคงจะไม่ได้ใช้ในการดูแลราคาขายปลีกมากนัก ประกอบกับมองว่าไม่เกิน 20 ปี ข้างหน้า พลังงานจากฟอสซิลจะลดบทบาทลง จึงควร ใช้โอกาสนี้ไปพัฒนาพลังงานทางเลือก เช่นเดียวกับกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงานก็ต้องมีวิธีการใช้เงินรูปแบบใหม่ๆ ให้เหมาะสม”
นอกจากนี้ยั งมอบให้กลุ่มปตท.ไปเร่งดำเนินโครงการปุ๋ยสั่งตัด(ปุ๋ยอินทรีย์ที่ผลิตขึ้นให้สอดคล้องกับชนิดของดิ นแต่ละพื้นที่และพืชเกษตร)เพื่อช่วยเหลือภาคเกษตรกร โดยเชิญนักลงทุนหรือผู้เชี่ยวชาญต่างประเทศ มาร่วมทุนหรือร่วมดำเนินการ กรณีนี้ไม่ถือว่าเป็นการแย่งตลาดปุ๋ยจากเอกชนเพราะเน้นปุ๋ยสูตร ที่จำเป็นเพื่อลดต้นทุนเกษตรกรเท่านั้น
ขณะเดียวกัน ก็ขอให้ปตท. ไปจับมือกับสหกรณ์ที่จะใช้เป็นเครือข่ายในการกระจายปุ๋ยและสินค้าด้านเกษตรต่างๆ ผ่านสถานีบริการน้ำมันหรือ PTT Station รวมทั้งให้พิจารณาเร่งรัดการทำห้องเย็นที่เป็นขนาดเล็กเพื่อเก็บผลไม้ในการลดปัญหาราคาตกต่ำ และให้ปตท.และบริษัทในเครือมุ่งเน้นดำเนินธุรกิจที่สอดรับกับโมเดลพัฒนาเศรษฐกิจรูปแบบ BCG ที่ประกอบด้วยเศรษฐกิจชีวภาพ, เศรษฐกิจหมุนเวียน , อุตสาหกรรมสีเขียว ที่เป็นเทรนด์ของโลกอนาคต
“ผมต้องการให้ประเทศ ไทยเป็นศูนย์กลางพลังงานในภูมิภาค เพื่อสร้างความมั่นคงด้านพลังงานโดยไม่เอาเปรียบใครโดยเฉพาะการเชื่อมโยงกับกลุ่มประเทศซีแอลเอ็มวี( กัมพูชา ลาว เมียนมาร์ เวี่ยดนาม) ที่ประเทศไทยเป็นผู้นำด้านพลังงานและเชื่อมโยงกับเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก(อีอีซี) เพื่อเพิ่มศักยภาพ เป็นต้น