“สมคิด” สั่งปตท.-กฟผ. และกองทุนน้ำมันระดม จัดหามาตรการดูแลค่าครองชีพประชาชนด้านพลังงาน

  • ให้ปตท.เร่งดำเนินโครงการปุ๋ยสั่งตัด
  • ห้องเย็นเก็บผลไม้ พร้อมใช้ PTT Station 
  • ดันไทยสู่ผู้นำพลังงานภูมิภาค

 นายสมคิด​ จาตุศรีพิทักษ์​  รองนายกรัฐมนตรี​​ เปิดเผยหลังการตรวจเยี่ยมและมอบนโยบายกระทรวงพลังงาน  ว่า ได้สั่งการให้หน่วยงานรัฐวิสาหกิจในสังกัดกระทรวงพลังงานโดยเฉพาะบริษัท.ปตท. จำกัด(มหาชน) การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย(กฟผ.) สถาบันบริหารกองทุนน้ำมัน ไประดมความเห็นร่วมกัน เพื่อจัดหามาตรการดูแลค่าครองชีพประชาชน ด้านพลังงาน เช่น ค่าบริการที่เรียกเก็บจากบิลค่าใช้บริการต่างๆ และราคาค่าไฟฟ้าฯลฯ 

  “เป้าหมายหลักๆ ผมต้องการให้กระทรวงพลังงาน มาช่วยลดความเหลื่อมล้ำของประชาชน  และเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันของประเทศไทย เพราะขณะนี้ กองทุนน้ำมันมีเงินสะสม 30,000 ล้านบาท ก็จะต้องคิดใหม่ทำใหม่ว่าควรใช้เงินอย่างไรให้เข้ากับสถานการณ์  เพราะขณะนี้ราคาน้ำมันอยู่ในช่วงขาล งคงจะไม่ได้ใช้ในการดูแลราคาขายปลีกมากนัก ประกอบกับมองว่าไม่เกิน 20 ปี ข้างหน้า พลังงานจากฟอสซิลจะลดบทบาทลง จึงควร ใช้โอกาสนี้ไปพัฒนาพลังงานทางเลือก เช่นเดียวกับกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงานก็ต้องมีวิธีการใช้เงินรูปแบบใหม่ๆ ให้เหมาะสม” 

 นอกจากนี้ยั งมอบให้กลุ่มปตท.ไปเร่งดำเนินโครงการปุ๋ยสั่งตัด(ปุ๋ยอินทรีย์ที่ผลิตขึ้นให้สอดคล้องกับชนิดของดิ นแต่ละพื้นที่และพืชเกษตร)เพื่อช่วยเหลือภาคเกษตรกร โดยเชิญนักลงทุนหรือผู้เชี่ยวชาญต่างประเทศ มาร่วมทุนหรือร่วมดำเนินการ​ กรณีนี้ไม่ถือว่าเป็นการแย่งตลาดปุ๋ยจากเอกชนเพราะเน้นปุ๋ยสูตร ที่จำเป็นเพื่อลดต้นทุนเกษตรกรเท่านั้น

ขณะเดียวกัน ก็ขอให้ปตท. ไปจับมือกับสหกรณ์ที่จะใช้เป็นเครือข่ายในการกระจายปุ๋ยและสินค้าด้านเกษตรต่างๆ ผ่านสถานีบริการน้ำมันหรือ PTT Station รวมทั้งให้พิจารณาเร่งรัดการทำห้องเย็นที่เป็นขนาดเล็กเพื่อเก็บผลไม้ในการลดปัญหาราคาตกต่ำ  และให้ปตท.และบริษัทในเครือมุ่งเน้นดำเนินธุรกิจที่สอดรับกับโมเดลพัฒนาเศรษฐกิจรูปแบบ BCG  ที่ประกอบด้วยเศรษฐกิจชีวภาพ, เศรษฐกิจหมุนเวียน , อุตสาหกรรมสีเขียว ที่เป็นเทรนด์ของโลกอนาคต 

 “ผมต้องการให้ประเทศ ไทยเป็นศูนย์กลางพลังงานในภูมิภาค เพื่อสร้างความมั่นคงด้านพลังงานโดยไม่เอาเปรียบใครโดยเฉพาะการเชื่อมโยงกับกลุ่มประเทศซีแอลเอ็มวี( กัมพูชา ลาว เมียนมาร์ เวี่ยดนาม)  ที่ประเทศไทยเป็นผู้นำด้านพลังงานและเชื่อมโยงกับเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก(อีอีซี) เพื่อเพิ่มศักยภาพ เป็นต้น