สนค.แนะเร่งเพิ่มขีดความสามารถแข่งขันทุกมิติ

  • หลัง IMD ชี้ปี 66 ไทยเผชิญความท้าทายรอบด้าน
  • ทั้งค่าครองชีพสูง การเมืองไม่แน่นอน ภูมิรัฐศาสตร์
  • เร่งฉวยประโยชน์จากสหรัฐฯย้ายฐานออกจากจีน

นายพูนพงษ์ นัยนาภากรณ์ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) เปิดเผยถึงกรณีที่ IMD World Competitiveness Center จัดอันดับความสามารถในการแข่งขันปี 66 และจัดให้ไทยอยู่ในอันดับที่ 30 จาก 64 เขตเศรษฐกิจ เลื่อนขึ้น 3 อันดับจากปีก่อนหน้าว่า แม้ว่าขีดความสามารถด้านการแข่งขันของไทยดีขึ้นทุกด้าน แต่ IMD ระบุว่า ปี 66 ไทยจะเผชิญกับความท้าทาย เช่น การเพิ่มขึ้นของค่าครองชีพและการเติบโตที่ไม่สมดุล ความไม่แน่นอนทางการเมืองจากการเลือกตั้งทั่วไป ความเสี่ยงจากภูมิรัฐศาสตร์ ความสามารถในการรับมือกับภัยคุกคามด้านความมั่นคงทางไซเบอร์ และการขาดแคลนแรงงานในภาคบริการ

นอกจากนี้ เศรษฐกิจไทยยังจะได้รับแรงกดดันจากปัญหาภาคธนาคารของชาติตะวันตก ที่เพิ่มความเสี่ยงที่จะทำให้เศรษฐกิจหลายประเทศถดถอย โดยเฉพาะประเทศคู่ค้าหลักของไทย ประกอบกับ เศรษฐกิจไทยพึ่งพาการส่งออก ที่ต้องเชื่อมโยงกับเศรษฐกิจโลกอย่างใกล้ชิด

ดังนั้น ไทยจึงควรเร่งเดินหน้าพัฒนาขีดความสามารถในการแข่งขันเพิ่มขึ้นในทุกมิติ ทั้งการพัฒนาอุตสาหกรรมแห่งอนาคต การพัฒนามาตรการส่งเสริมการลงทุนให้สอดรับกับความต้องการของนักลงทุนในสาขาที่เป็นเป้าหมายของไทย การส่งเสริมการส่งออกเชิงรุก รวมถึงการกระจายตลาดมากขึ้น และการอัพสกิล/รีสกิลเพิ่มทักษะและคุณภาพของแรงงาน เพื่อเตรียมความพร้อมของประเทศให้สามารถรับมือกับผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น และช่วงชิงประโยชน์จากการที่โลกเข้าสู่ภาวะการกระจายตัวทางภูมิเศรษฐกิจ จากการที่สหรัฐฯ และพันธมิตรลดความเสี่ยงจากการพึ่งพาห่วงโซ่อุปทานของจีนมากเกินไป และย้ายฐานการผลิตออกจากจีนไปยังประเทศต่างๆ

“การกระจายตัวทางภูมิเศรษฐกิจ จะส่งผลต่อการเปลี่ยนภูมิทัศน์ของห่วงโซ่อุปทานโลก ทั้งในด้านการผลิต การค้า และการลงทุน ซึ่งจะเป็นโอกาสของประเทศกำลังพัฒนา โดยเฉพาะอาเซียน รวมถึงไทย ที่จะได้ประโยชน์จากการย้ายการลงทุนเข้ามาต่อยอดอุตสาหกรรมเดิมที่ไทยมีความแข็งแกร่ง และขยายอุตสาหกรรมเทคโนโลยีขั้นสูง เพื่อเป็นเครื่องจักรขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยต่อไปในอนาคต”