“ศักดิ์สยาม”โชว์วิชั่นบนเวทีรัฐมนตรีด้านการขนส่งเอสแคป ฉายภาพการพัฒนาโครงการเมกะโปรเจคในไทยเชื่อมโยงภูมิภาคเพื่อการพัฒนาขนส่งที่ยั่งยืนในภูมิภาคเอเชีย

“ศักดิ์สยาม”โชว์วิชั่นบนเวทีรัฐมนตรีด้านการขนส่งเอสแคป ฉายภาพการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานในไทยเชื่อมโยงภูมิภาคผ่านโครงการ MR-MAP-รถไฟรางคู่-รถไฟฟ้าหลากสีในเขตกรุงเทพและปริมณฑลเพื่อการพัฒนาขนส่งที่ยั่งยืนในภูมิภาคเอเชีย

นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม เปิดเผยภายหลังเป็นประธานในพิธีเปิดการประชุมระดับรัฐมนตรีด้านการขนส่งเอสแคป ครั้งที่ 4  (Fourth  Ministerial Conference on Transport) ร่วมกับ นาง Armida Salsiah Alisjahbana เลขาธิการบริหารเอสแคป ว่า การประชุมระดับรัฐมนตรีด้านการขนส่งเอสแคป ครั้งที่ 4 จัดขึ้นเพื่อหารือเชิงยุทธศาสตร์ระหว่างประเทศสมาชิกเอสแคปในการพัฒนาโครงการด้านการขนส่งที่ยั่งยืนในภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิกเพื่อเสริมสร้างความเข้มแข็งของความร่วมมือระดับภูมิภาค โดยในที่ประชุมตนยังได้ กล่าวเกี่ยวกับความเชื่อมโยงระหว่างร่างแผนปฏิบัติการระดับภูมิภาคสำหรับการพัฒนาด้านการขนส่งที่ยั่งยืนในภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิก ค.ศ. 2022 – 2026 กับการดำเนินนโยบายที่สำคัญของไทยเพื่อมุ่งสู่การขนส่งที่ยั่งยืน โดยได้นำเสนอนโยบายที่สำคัญของไทย เช่น การสร้างความเชื่อมโยงในระดับภูมิภาคผ่านโครงการ MR-MAP การพัฒนาระบบรถไฟรางคู่และระบบการขนส่งมวลชนสาธารณะในเขตกรุงเทพและปริมณฑล การให้ความสำคัญกับระบบดิจิทัลด้านการขนส่งผ่านการพัฒนาระบบ National Single Window เพื่อเชื่อมโยงและอำนวยความสะดวกด้านการจราจรและการขนส่งทางทะเล การพัฒนาระบบการจัดเก็บค่าผ่านทางอัตโนมัติแบบไม่มีไม้กั้น (M-flow) รวมถึงการผลักดันอุตสาหกรรมการให้บริการยานพาหนะผ่านทางแอปพลิเคชัน หรือ Ride-hailing 

นอกจากนี้ ยังมีการนำเสนอเกี่ยวกับนโยบายและแผนงานด้านการขนส่งที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ผ่านการจัดทำแผนปฏิบัติการการตั้งเป้าหมายการมีส่วนร่วมของประเทศภาคการขนส่งเพื่อตั้งเป้าสู่การลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ตลอดจนการมุ่งสู่การพัฒนาด้านความปลอดภัยทางถนนผ่านโครงการที่สำคัญ ได้แก่ การพัฒนานวัตกรรมแผ่นยางพาราครอบแบริเออร์ (Rubber Fender Barrier) การยกระดับมาตรฐานของโครงข่ายถนนทางหลวงและทางหลวงชนบทผ่านการออกกฎกระทรวงกำหนดความเร็วของยานพาหนะบนทางหลวงแผ่นดินหรือทางหลวงชนบท และการเสริมสร้างความเข้มแข็งของกองทุนเพื่อความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนน (กปถ.) ด้วยการพัฒนาระบบการประมูลป้ายทะเบียนรถยนต์แบบพิเศษซึ่งจะเป็นการช่วยส่งเสริมให้เกิดการพัฒนาความปลอดภัยบนท้องถนนอย่างยั่งยืน