“วิษณุ”เปิดไทม์ไลน์รัฐบาลใหม่

  • “วิษณุ” ชี้รัฐบาลอยู่บนทางสองแพร่งประชุมผู้นำอาเซียน 22-23 มิ.ย.นี้ 
  • ควรเป็นหน้าที่รัฐบาลนี้ที่มีอำนาจเต็มเจรจาระหว่างประเทศ
  •  เปิดไทม์ไลน์การเริ่มงานรัฐบาลชุดใหม่


นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงการทำหน้าที่ของรัฐบาลในช่วงที่ไทยมีการประชุมสุดยอดอาเซียน วันที่ 22-23มิ.ย.ว่า การทำงานของรัฐบาลนี้ยังเดินหน้าได้ หากการจัดตั้งคณะรัฐมนตรี (ครม.) ชุดใหม่ยังไม่แล้วเสร็จ หรือแล้วเสร็จ แต่ยังไม่ได้แถลงนโยบายต่อรัฐสภา การที่ครม.ชุดใหม่จะเข้าไปประชุมอาเซียน ซึ่งเป็นเรื่องใหญ่ระดับภูมิภาคและระดับโลกในช่วงเวลานั้น จะไม่สามารถทำได้


“ตรงนี้เป็นทางสองแพร่งสามแพร่งของรัฐบาลอยู่เหมือนกัน เราเรียกว่าหัวเลี้ยวหัวต่อ หากสมมติท่านนายกฯจัดตั้งครม.ได้เสร็จ เข้าเฝ้าถวายสัตย์ปฏิญาณตน แต่ยังไม่แถลงนโยบาย รัฐบาลเก่าพ้นไปหมดแล้ว รัฐบาลใหม่จะเข้าไปประชุมอาเซียน เดี๋ยวก็จะถูกโจมตี ถูกวิจารณ์อีกว่าไปยกมือแสดงความเห็นผูกมัดประเทศไทย โดยที่ยังไม่แถลงนโยบาย ทำไม่ได้ เมื่อเป็นเช่นนั้นถ้าการแถลงนโยบายยังไม่เสร็จ ก็ควรจะทอดเวลาออกไปเพื่อให้รัฐบาลนี้สามารถดำเนินการได้ เพราะว่ารัฐบาลนี้มีอำนาจเต็มในการไปเจรจาระหว่างประเทศ ยิ่งเป็นนายกรัฐมนตรีคนเดียวกัน ความเชื่อมั่นก็ไม่ได้ลดน้อยถอยลงแต่อย่างใด แต่ถ้า.การจัดตั้งคณะรัฐมนตรี  การเข้าเฝ้าถวายสัตย์ปฏิญาณตน และ 3การแถลงนโยบาย สามารถเสร็จได้ก่อน วันที่ 22 มิ.ย.2562 รัฐบาลใหม่ก็ไปดำเนินการได้


สำหรับไทม์ไลน์ภายหลังที่ประชุมรัฐสภาโหวตเลือกให้พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรีอีกสมัย จากนี้ทางสภาผู้แทนราษฎรเป็นผู้นำรายชื่อนายกรัฐมนตรีขึ้นทูลเกล้าฯถวาย ซึ่งเร็วที่สุดน่าจะเป็นวันนี้ที่จะนำขึ้นทูลเกล้าฯ จากนั้นก็สุดแล้วแต่จะมีโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งกลับลงมาเมื่อไหร่ และเมื่อมีโปรดเกล้าฯลงมาแล้ว ก็เป็นเรื่องที่นายกรัฐมนตรีจะดำเนินการเพื่อจัดตั้งรัฐบาล ซึ่งไม่มีกำหนดเวลา สุดแล้วแต่จะเห็นสมควร ซึ่งคงจะต้องมีการหารือกับพรรคการเมืองต่าง ๆ หลังจากนั้นจะส่งรายชื่อครม.ให้เลขาธิการคณะรัฐมนตรีนำรายชื่อครม.ทั้งหมดไปตรวจสอบคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามซึ่งก็คงต้องใช้เวลาอีกสักระยะหนึ่ง

“วันนี้เพิ่งวันที่ 6 มิ.ย. เหลืออีกตั้ง 24 วันก็น่าจะสามารถทำได้ แต่สิ่งที่ควรจะต้องทำไปพร้อมๆกัน เชื่อว่ารัฐบาลคงทราบแล้ว แต่หากจะต้องให้เกิดความรอบคอบ ก็คือในระหว่างที่จะจัดตั้งครม.ซึ่งจะมาจากพรรคใดและใครไปอยู่ที่ไหนก็ตาม สิ่งที่ควรทำไปพร้อมๆกันก็คือการยกร่างนโยบายเพราะเมื่อไปถึงวันที่ถวายสัตย์ปฏิญาณแล้ว หลังจากนั้นจะต้องมีการแถลงนโยบายภายใน 15 วัน ดังนั้นควรใช้เวลาช่วงนี้ซึ่งยังไม่ได้นับหนึ่งมายกร่างนโยบายไว้ก่อน เตรียมไว้ และพอจัดตั้งครม.เสร็จ โปรดเกล้าฯแต่งตั้งเรียบร้อยแล้ว ก็เอานโยบายที่จัดทำเสร็จแล้วมาปรับปรุงอีกไม่มากนัก แล้วเสนอ จากนั้นก็สามารถเดินหน้าเรื่อง 15 วันได้”