นายคำนูณ สิทธิสมาน โฆษกคณะกรรมาธิการวิสามัญกิจการวุฒิสภา (วิปวุฒิสภา) แถลงผลการประชุมกรณีสภาผู้แทนราษฎรเสนอตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาหลักเกณฑ์และวิธีการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ 2562 ว่า วิปวุฒิสภายังไม่ได้หยิบยกเรื่องดังกล่าวขึ้นมาพิจารณา แต่เนื่องจากปรากฏเป็นข่าวว่าจะมีองค์ประกอบจากสมาชิกวุฒิสภา(ส.ว.) ด้วย ยืนยันว่าคณะกรรมาธิการจะไม่มีสัดส่วนจาก ส.ว. เพราะเป็นการตั้งคณะกรรมาธิการในสภาผู้แทนราษฎร แต่หากมี ส.ว.คนใดได้รับการเสนอชื่อเป็นกรรมาธิการ ต้องถือว่าส.ว.คนนั้นเป็นกรรมาธิการผู้ทรงคุณวุฒิจากสัดส่วนของคณะรัฐมนตรี(ครม.) ไม่ใช่ในฐานะผู้แทนของวุฒิสภา ส่วนจะเสนอชื่อบุคคลใด วิปวุฒิสภาไม่มีข้อมูลเรื่องนี้
สำหรับความเหมาะสมว่าควรจะมี ส.ว.เข้าไปทำหน้าที่ในคณะกรรมาธิการด้วยหรือไม่ นายคำนูณ กล่าวว่า หากมีส.ว.รับข้อเสนอจากพรรคการเมืองเสนอชื่อเป็นกรรมาธิการ อาจจะเป็นเรื่องไม่เหมาะสมต่อสถานะความเป็นกลางทางการเมือง แต่สามารถเข้าทำหน้าที่ได้ หากไปในฐานะผู้ทรงคุณวุฒิที่คณะรัฐมนตรีเสนอ เบื้องต้นยังไม่ทราบข้อมูลชัดเจนว่าคณะรัฐมนตรีจะเสนอชื่อบุคคลใดหรือส.ว.คนใดได้รับการทาบทาม
ส่วนข้อสังเกตว่าส.ว.จะทำหน้าที่เป็นกรรมาธิการ เพื่อขัดขวางการแก้ไขรัฐธรรมนูญ นายคำนูณ กล่าวว่า ไม่มีเหตุที่จะเกิดขึ้น เพราะเป็นการจัดตั้งคณะกรรมาธิการสภาผู้แทนราษฎร หากจะมี ส.ว.เข้าทำหน้าที่ ก็เป็นส่วนน้อยมาก
ฟนายคำนูณ เปิดเผยว่า วันที่ 18 พฤศจิกายนนี้ วุฒิสภาจะตั้งคณะกรรมาธิการสามัญเพื่อทำหน้าที่ตรวจสอบประวัติ ความประพฤติและพฤติกรรมทางจริยธรรมของผู้ได้รับการเสนอชื่อให้ดำรงตำแหน่งเลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา ซึ่งประกอบด้วยตัวแทนจากคณะกรรมาธิการสามัญประจำวุฒิสภา 12 คน และตัวแทนคณะกรรมาธิการวิสามัญกิจการวุฒิสภา 3 คน จะมีเวลาทำงาน 30 วัน เพื่อให้ความเห็นชอบการตั้งนายปกรณ์ นิลประพันธ์ เป็นเลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกาแทนน.ส.จารุวรรณ เฮงตระกูลที่เกษียณอายุราชการ
