.รอบอร์ดสลากฯพิจารณา 29 ก.ย.นี้
.คาดชงครม.ไฟเขียวเร็วๆ นี้-เปิดขายต้นปี 66
.เบื้องต้นจ่ายบาทละ 200 บาท และ 1 เลขลุ้นถูก 4 รางวัล
นายธนวรรธน์ พลวิชัย กรรมการและโฆษก คณะกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาล (บอร์ดสลาก) เปิดเผยว่า ในการประชุมบอร์ด วันที่ 29 ก.ย.นี้ จะพิจารณารายละเอียดของผลิตภัณฑ์ใหม่สลากกินแบ่งรัฐบาลตัวเลข 3 หลัก (เอ็น 3) หรือหวย 2 ตัว 3 ตัว หลังจากสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล ได้ทำประชาพิจารณ์กับผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย กลุ่มผู้ซื้อ กลุ่มผู้ขายไปแล้ว ซึ่งผลตอบรับค่อนข้างดีและไม่มีปัญหาอะไร โดยบอร์ดจะพิจารณารูปแบบ การจัดจำหน่าย วิธีการ การกำหนดจุดเริ่มต้น และรายละเอียดที่เกี่ยวข้องทั้งหมด ก่อนเสนอให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาเห็นชอบและออกประกาศผลิตภัณฑ์ใหม่ภายในต้นปี 66 เพื่อดำเนินการและจำหน่ายภายในปีงบประมาณ 66 หรือก่อนสิ้นเดือนก.ย.66 ซึ่งจะเป็นทางเลือกให้กับประชาชน และมีส่วนทำให้ราคาสลากฯลดลงพร้อมช่วยดึงเงินใต้ดินขึ้นบนดินอีกด้วย
นอกจากนี้ บอร์ดจะพิจารณาจำนวนสลากดิจิทัล ที่ล่าสุดได้นำออกจำหน่าย 13 ล้านฉบับ และพบว่าต้องใช้เวลานานถึง 8 วันกว่าจะจำหน่ายหมด ซึ่งหมายความว่า กำลังเข้าใกล้จุดสมดุลระหว่างความต้องการซื้อและจำนวนสลากดิจิทัล ท่ามกลางสถานการณ์เศรษฐกิจในปัจจุบัน โดยต้องดูว่าคนคุ้นเคยกับระบบดิจิทัลมากน้อยเพียงใด เพราะจำนวนคนซื้อมีเพิ่มขึ้นไม่มาก แต่ยังคงกำหนดเพดานจำหน่ายสลากดิจิทัลในปีนี้ไว้เท่าเดิมที่ 20 ล้านฉบับ รวมทั้งจะพิจารณาแนวทางแก้ไขปัญหาของผู้ที่อยู่ในระบบซื้อจอง ที่แย่งคิวและทะเลากันหน้าตู้เอทีเอ็ม ซึ่งจริงๆ แล้ว 90% ของจำนวนผู้ที่อยู่ในระบบ 150,000 คน จะได้สลากจากระบบเน็ตแบงก์อยู่แล้ว และอีก 10% จะได้จากระบบเอทีเอ็ม หากผู้ค้ารายย่อยเปลี่ยนมาใช้ระบบแอปพลิเคชันก็จะสามารถรับสลากได้ง่าย
อย่างไรก็ตาม จนถึงขณะนี้ สำนักงานสลากฯยังไม่มีการเพิ่มจำนวนสลากฯให้มากขึ้นกว่าปัจจุบันที่จำหน่ายอยู่งวดละ 100 ล้านฉบับ แม้มีการเรียกร้องให้เพิ่มมากขึ้นก็ตาม เพราะอาจทำให้เสียสมดุล โดยผู้ขายมีจำนวนสลากเหลือในปลายงวดซึ่งทำให้เกิดการขาดทุน ที่สำคัญอาจทำให้เกิดมุมมองว่ามอมเมาสังคม
ด้านพ.ท.หนุน ศันสนาคม ผู้อำนวยการสำนักงานสลากฯ กล่าวว่า สำนักงานสลากฯ ต้องการแยกเซ็กเตอร์หรือประเภทของสลาก 3 ตัวให้ชัดเจน โดยยังไม่ใช่สลากออนไลน์ 100% แต่เป็นการขายผ่านเครื่องคีออส หรือขายผ่านแฮนด์เฮลที่สามารถเดินเร่ขายได้ เบื้องต้นที่คิดไว้ได้กำหนดการจ่ายรางวัลขั้นต่ำที่ 200 บาท ต่อการซื้อ 1 บาท โดย 1 เลขจะมีโอกาสถูกรางวัลได้ 4 รางวัล ทั้ง 3 ตัวตรง, 3 ตัวสลับหรือ 3 ตัวโต้ด, เลข 2 ตัว และรางวัลแจ๊กพอต ตั้งเป้าหมายว่าต้องมีรายได้จากผลิตภัณฑ์ใหม่ภายในปีงบฯ 66 ซึ่งการออกผลิตภัณฑ์ใหม่ถือเป็นทางเลือกให้กับผู้ซื้อเท่านั้น และยืนยันว่าการดำเนินการทั้งหมดเป็นไปตามกฎหมายสำนักงานสลากฯปี 62 อย่างถูกต้องครบถ้วน โดยอาจทำให้ราคาสลากปรับลดลงมาได้บ้าง
ส่วนการจัดทำระบบจำหน่ายเลข 3 หลัก ต้องเป็นการจ้าง โดยจะเปิดให้เอกชนที่เชี่ยวชาญเข้ามาแข่งขันเพื่อรับจ้างทำระบบ โดยเสียค่าดำเนินการคิดเป็นทรานเซ็กชั่น แต่ต้องมีเงื่อนไขสัญญาว่าสุดท้ายแล้วระบบต้องเป็นสมบัติของสำนักงานสลากฯ ขณะเดียวกัน ยังยืนยันว่า ในงวดการออกรางวัลวันที่ 16 ต.ค.นี้ สำนักงานสลากฯจะจำหน่ายสลากดิจิทัลจำนวน 14 ล้านใบแน่นอน แม้ว่าการจำหน่ายต้องใช้เวลามากขึ้นจากเดิม 5 วันมาเป็น 8 วันหรือมากกว่าก็ตาม ซึ่งจะเป็นการชี้ให้เห็นด้วยว่าสลากดิจิทัลนั้นเข้าสู่ภาวะสมดุลหรือไมา
นอกจากนี้ สำนักงานสลากฯจะออกแนวทางแก้ไขปัญหาการทะเลาะกันหน้าตู้เอทีเอ็มของผู้ที่อยู่ในระบบจองซื้อสลากฯด้วย ยืนยันว่าได้ใช้หลักเท่าเทียมและเป็นธรรม เพื่อให้ทุกคนมีโอกาสเท่ากัน มาแก้ไขปัญหา ยืนยันว่าการแก้ปัญหาโดยเพิ่มสลากถือว่าเป็นการแก้ไขปัญหาไม่ตรงจุด ซึ่งการทำสลากฯต้องคำนึงถึงผู้ซื้อเป็นหลัก เพื่อให้เกิดความสมดุล เพราะหากออกมามากเกินกว่าความต้องการ สุดท้ายผู้ขายก็ต้องเป็นผู้รับผิดชอบ
