- ประธานบอร์ดรฟท.ยืนยันไม่สนผู้ผ่านการสรรหาเป็นคนในคนนอก
- ต้องแก้ปัญหา และทำภารกิจพลิกฟื้นองค์กรรฟท.ให้สำเร็จ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าที่ประชุมคณะกรรมการการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เช้าวันนี้ (13 ก.พ.) มีนายจิรุตม์ วิศาลจิตร อธิบดีกรมการขนส่งทางบก เป็นประธานกรรมการ มีรายงานข่าวระบุว่าจะมีการพิจารณาวาระสำคัญผลการสรรหาผู้ว่าฯ รฟท.คนใหม่ที่ดำเนินการตั้งแต่เดือนธันวาคมที่ผ่านมาเข้าสู่การพิจารณาด้วย
นายจิรุตม์ ระบุว่าการประชุมวันนี้หากนายอำนวย ปรีมนวงศ์ กรรมการ รฟท.ในฐานะประธานกรรมการสรรหาดำเนินการเสร็จพร้อมเสนอเข้าที่ประชุมวันนี้ บอร์ดก็จะพิจารณาวาระดังกล่าวทันที
ส่วนกรณีสหภาพ รฟท.ออกมาเคลื่อนไหวเรียกร้องให้ผู้ว่าฯ คนใหม่จะเป็นคนในองค์กรที่ร่วมการสรรหาเท่านั้น นายจิรุตม์ กล่าวว่า ต้องให้ความเชื่อมั่นคณะกรรมการสรรหาที่มีผู้ทรงคุณวุฒิรอบด้าน ทั้งด้านการบริหารจัดการ การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน ซึ่งมีผู้อำนวยการ สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) เข้าร่วม ผู้เชี่ยวชาญด้านบริหารจัดการทรัพย์สินที่เป็นมืออาชีพ และผู้บริหารจัดการการเงิน โดยอยากให้ทุกฝ่ายเข้าใจว่าการสรรหาผู้ว่าฯรฟท.ไม่จำกัดต้องเป็นคนในคนนอกเท่านั้น แต่ต้องดำเนินภารกิจหลายด้านให้บรรลุผล ไม่ว่าโครงการลงทุนขนาดใหญ่ให้มีประสิทธิภาพ โดยมีรอหลายโครงการ, การฟื้นฟูกิจการรถไฟ และพัฒนาที่ดิน รฟท. เพื่อให้เกิดรายได้เป็นผลกำไรแก่องค์กร ซึ่งภารกิจเหล่านี้จำเป็นต้องได้มืออาชีพเข้ามาดำเนินการ เพื่อให้องค์กรเดินหน้าไปทิศทางที่ถูกต้อง โดยบอร์ดชุดนี้มีหลักการและยึดมั่นแนวทางดำเนินการดังกล่าวมาโดยตลอด
นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม กล่าวถึงกระบวนการสรรหาผู้ว่า รฟท. คนใหม่ว่า ในกระบวนการสรรหา และการตัดสินใจว่า ใครผ่านการพิจารณา เป็นผู้ว่าการ รฟท.คนใหม่ กระทรวงคมนาคม ให้เป็นอำนาจของบอร์ด รฟท.ที่จะเป็นผู้พิจารณาหาก บอร์ด รฟท.มีมติ ออกมาและมีการดำเนินการถูกต้องตามระเบียบขั้นตอนกฎหมายก็เป็นอำนาจของบอร์ด ที่กระทำได้ ส่วนกรณีที่ทางสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจ รฟท.ออกมาคัดค้าน เรื่องการแต่งตั้งผู้ที่มาจะดำรงตำแหน่งผู้ว่า รฟท.คนใหม่ ก็เป็นสิทธิ์ที่ทางสภาพจะกระทำแสดงออกได้
ทั้งนี้ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในระหว่างการประชุมคณะกรรมการ รฟท. วันนี้ สหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจรฟท. ได้มีการเคลื่อนไหวยื่นหนังสือต่อ บอร์ด รฟท. และได้เดินทางไปยื่นหนังสือที่กระทรวงคมนาคมเพื่อเรียกร้องให้การสรรหาผู้ว่ารถไฟต้องพิจารณาผู้เหมาะสมจากคนในที่ร่วมการสรรหาเท่านั้น
