รัสเซียเดินหน้าโจมตีเมืองท่า “มาริอูโพล” อย่างหนัก

.ยิงถล่มโรงละคร โรงเรียนศิลปะ อาคารสาธารณะ

.ประชาชนที่หลบภัยในอาคารถูกทับหลายร้อยคน

.ยูเครนเรียกร้องรัสเซียเปิดทางมนุษยธรรมให้พลเรือน

สำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานว่า รัสเซียเดินหน้าการโจมตีเมืองท่า มาริอูโพล ของยูเครนที่ถูกปิดล้อมมาหลายสัปดาห์อย่างหนัก จนเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นชี้ว่า เมืองเสียหายจนจะเหลือแค่เพียง “เถ้าถ่านของผืนดินที่ดับสิ้น” หลังเพิ่งถูกโจมตีด้วยระเบิดลูกใหญ่อีก 2 ลูก

สถานการณ์ในเมืองมาริอูโพล ซึ่งมีประชากรอยู่ 400,000 คนก่อนเกิดสงครามนั้น ถูกจัดให้เป็นเหตุฉุกเฉินด้านมนุษยธรรมที่เร่งด่วนที่สุดแล้ว โดยขณะนี้ เชื่อกันว่า ยังมีประชาชนนับแสนคนที่ยังคงติดอยู่เมืองนี้ และเผชิญหน้ากับการโจมตีอย่างต่อเนื่อง ทั้อีกงยังมีปัญหาขาดอาหาร น้ำ พลังงานและระบบทำความร้อน

ประธานาธิบดี โวโลดิเมียร์ เซเลนสกี กล่าวระหว่างกล่าวปราศรัยผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอร์เรนซ์ต่อหน้ารัฐสภาอิตาลีเมื่อวันที่ 22 มี.ค.ที่ผ่านมาว่า “เวลานี้ ไม่มีอะไรเหลือที่นั่น (เมืองมาริอูโพล) แล้ว”

สภาเมืองมาริอูโพลไม่ได้เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับจำนวนผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต รวมทั้งความเสียหายที่เกิดขึ้นจากการโจมตีรอบล่าสุด ซึ่งทางการยูเครนอ้างว่า รัสเซียได้ทำลายโรงละคร โรงเรียนศิลปะ และอาคารสาธารณะอื่นๆ ขณะที่ ผู้หญิงและเด็กหลายร้อยคนที่ใช้ชั้นใต้ดินของสิ่งก่อสร้างเหล่านั้นเป็นที่หลบภัย ถูกฝังอยู่ใต้ซากปรักหักพังทันที

พร้อมกันนั้น สภาเมืองมาริอูโพลได้ออกแถลงการณ์ว่า “เป็นอีกครั้งที่มีความชัดเจนว่า (กองทัพรัสเซีย) ไม่ได้สนใจในเมืองมาริอูโพล แต่พวกเขาต้องการถล่มเมืองนี้ให้ราบเป็นหน้ากลอง และให้เหลือเพียงเถ้าถ่านของผืนดินที่ดับสิ้นแล้ว”

ทั้งนี้ รัสเซียยังคงปฏิเสธว่า ไม่ได้พุ่งเป้าโจมตีพลเรือน ขณะที่ ยูเครนกล่าวว่า มอสโกได้สกัดกั้นความพยายามจากโลกภายนอกที่จะส่งมาช่วยเหลือชาวเมือง ทั้งอาหารและของใช้จำเป็น รวมทั้งปิดกั้นไม่ให้รถโดยสารนำผู้คนออกจากเมืองด้วย

ด้านรองนายกรัฐมนตรียูเครน ไอรีนา เวเรสช์ชัค กล่าวว่า ยูเครนต้องการให้รัสเซียเปิดเส้นทางความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมให้กับพลเรือน และกองทัพยูเครนจะปกป้องเมืองมาริอูโพลต่อไป โดยจะไม่ยอมรับคำขาดใดๆ สิ่งที่รัสเซียเสนอคือ “การให้ยอมจำนนและยกธงขาว และนี่คือการบีบบังคับ และคำโกหก”

ก่อนหน้านี้ รัสเซียยื่นข้อเรียกร้องให้เมืองมาริอูโพลยอมจำนวนภายในรุ่งสางของวันจันทร์ที่ 21 มี.ค. แต่กรุงเคียฟปฏิเสธที่จะทำตาม

ขณะเดียวกัน สำนักข่าวเอพีรายงานโดยอ้างข้อมูลจากกระทรวงกลาโหมยูเครนว่า กองกำลังยูเครนสามารถผลักดันการรุกคืบของกองทัพรัสเซียที่มุ่งเข้ายึดครองเมืองท่าแห่งนี้ได้อย่างต่อเนื่อง พร้อมยืนยันว่า ยูเครนสามารถชิงพื้นที่เขตมาคารีฟ ซึ่งอยู่ชานเมืองกรุงเคียฟและมีความสำคัญทางยุทธศาสตร์กลับมาได้แล้วตั้งแต่วันอังคารที่ผ่านมา แต่ยอมรับว่า กองทัพรัสเซียยึดพื้นที่บางส่วนของเขต บูชา ฮอสโตเมล และเอียร์พิน ได้แล้ว