รักษ์โลก…กรมเจ้าท่าเปิดตัวเรือต้นแบบอลูนิเนียม-พลังงานไฟฟ้าลำแรกของไทยมั่นใจดีต่อสิ่งแวดล้อม-ลดต้นทุนในระยะยาว

กรมเจ้าท่าเปิดตัวเรือต้นแบบอลูนิเนียม – พลังงานไฟฟ้าลำแรกของไทยมั่นใจดีต่อสิ่งแวดล้อม-ลดต้นทุนในระยะยาว

กรมเจ้าท่า ลงนามฯ สวทช. ผนึกองค์กรเอกชน พัฒนาและผลิตเรือท่องเที่ยวอลูนิเนียม- พลังงานไฟฟ้าลำแรกไทย ตั้งเป้าเปิดตัวเรือต้นแบบ  5 สิงหาคมนี้  หวังผู้ประกอบการเรือด่วนเจ้าพระยา- คลองแสนแสบ พัฒนานำมาให้บริการ  ดีต่อสิ่งแวดล้อมและลดต้นทุนในระยะยาว

นายวิทยา ยาม่วง อธิบดีกรมเจ้าท่า (จท.) เปิดเผยภายหลังร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงกับสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.),บ้านปูเน็กซ์ บริษัทลูกของบริษัท บ้านปูจำกัด(มหาชน) และบริษัท สกุลชื่ อินโนเวชั่น จำกัด เพื่อพัฒนาออกแบบ การผลิต และมาตรฐาน สำหรับเรือไฟฟ้าที่มีคุณภาพ เพื่อความปลอดภัยในการขนส่งทางน้ำเพื่อยกระดับมาตรฐานการผลิตเรือไฟฟ้าว่า  กรมเจ้าท่าตั้งเป้าหมายที่จะเปิดตัวเรือไฟฟ้าต้นแบบ 1 ลำ ในวันที่ 5 สิงหาคมปีนี้ ซึ่งตรงกับวันคล้ายวันสถาปนากรมเจ้าท่า  โดยในการประกอบเรือต้นแบบในขณะนี้  การประกอบเรือที่ใช้อลูมิเนียมเป็นวัสดุหลัก มีความคืบหน้าไปมาก ปัจจุบันอยู่ระหว่างการติดตั้งระบบไฟฟ้าให้ใช้งานได้อย่างสมบูรณ์  โดยข้อดีของการนำเรืออลูมิเนียมไฟฟ้ามาให้บริการนี้  มีทั้งในเรื่องของการที่ปัจจุบันการประกอบเรือที่ใช้วัสดุไม้นั้นจัดหาวัสดุไม้ได้ยาก   ขณะที่การประกอบเรืออลูมิเนียมนั้นจะใช้เวลาเพียง 2 เดือน ในขณะที่การประกอบเรือไม้จะใช้เวลาอย่างน้อย 1 ปี  รวมทั้งวัสดุอลูมิเนียมนั้นจะมีความคงทนในระยะ 20 ปี ทำให้ต้นทุนในการบำรุงรักษาจะต่ำมาก  

ส่วนการนำพลังงานไฟฟ้ามาติดตั้งกับเรือนั้น  แม้ขณะนี้ราคาแบตเตอรี่จะมีราคาที่สูงอยู่ แต่เชื่อว่าภายใน 2-3 ปีข้างหน้าราคาก็จะมีการปรับลดลงอย่างต่อเนื่อง โดยขณะนี้การประกอบเรืออลูมิเนียมพลังงานไฟฟ้าลำนึงจะใช้ต้นทุนประมาณ 40 ล้านบาท และเรือ 1 ลำ จะสามารถจุผู้โดยสารได้ประมาณ 100 คน  ใกล้เคียงกับเรือที่ใช้วัสดุไม้  โดยหลังจากเรือต้นแบบแล้วเสร็จในอนาคตหากผู้ประกอบการเรือโดยสารในพื้นที่กรุงเทพฯปริมณฑลไม่ว่าจะเป็นเรือด่วนเจ้าพระยา หรือ เรือด่วนคลองแสนแสบ ก็สามารถว่าจ้างผลิตเพื่อนำเรืออลูมิเนียมไฟฟ้ามาให้บริการแก่ประชาชนได้ ซึ่งมั่นใจว่า ความร่วมมือการพัฒนาการผลิตเรือท่องเที่ยวไฟฟ้าลำแรกของไทยในครั้งนี้ จึงเป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญที่จะช่วยยกระดับมาตรฐานะบบการขนส่งทางน้ำ และการพาณิชยนาวีของไทย

ด้านนายจุลเทพ ขจรไชยกูล ผู้อำนวยการศูนย์เทคโนโลยีโลหะและวัสดุแห่งชาติ (เอ็มเทค) สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) กล่าวว่า สวทช. ได้ดำเนินงานกิจกรรมด้านยานพาหนะไฟฟ้มามากกว่า 10 ปี โดยมีการพัฒนาเทคโนโลยีแบตเตอรี่พร้อมระบบส่วนควบ เช่น ระบบระบายความร้อน ซึ่งเมื่อเร็วๆนี้ได้รับอนุมัติจากคณะรัฐมนตรีให้จัดตั้งศูนย์เทคโนโลยีพลังงานแห่งชาติ (ENTEC) เพื่อรับผิดชอบงานด้านนี้โดยตรง 

ขณะเดียวกัน สวทช. ยังเดินหน้าวิจัย และพัฒนามอเตอร์พร้อมระบบควบคุม โดยมองหาเทคโนโลยีมอเตอร์แบบใหม่ ๆ ที่เหมาะสำหรับการผลิตในประเทศ ระบบ OT ระบบสมาร์ทรวมถึงการออกแบบ และวิเคราะห์โครงสร้างต่างๆ สำหรับยานพาหนะไฟฟที่ต้องมีน้ำหนักเบา เพื่อลดการใช้พลังงาน และมีความปลอดภัยสูง ซึ่ง สวทช. มีทีมวิจัย และบริการที่มีประสบการณ์ในการพัฒนามาตรฐาน ทดสอบ และการรับรองผลิตภัณฑ์ ทั้งยังมีประสบการณ์การทำงานร่วมกับหน่วยงานภาครัฐ และภาคอุตสาหกรรมมากมาย อาทิ การออกมาตรฐานต่างๆ ที่เกี่ยวกับยานพาหนะไฟฟ้า และเทคโนโลยี OT เช่น มาตรฐานด้านเต้ารับเต้าเสียบ สถานีอัดประจุต่างๆ เป็นตันซึ่ง สวทช. จะนำจุดแข็งเหล่านี้มาร่วมส่งเสริมการทำงานภายใต้ความร่วมมือในครั้งนี้ เพื่อการพัฒนาอุตสาหกรรมเรือไฟฟ้ในไทยได้อย่างยั่งยืน

นางสมฤดี ชัยมงคล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) และบริษัท บ้านปู เน็กซ์ จำกัด กล่าวว่า บ้านปูเน็กซ์ บริษัทลูกของบริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) ในฐานะผู้ให้บริการพลังงานสะอาดชั้นนำในภูมิภาคเอเชียแปชิฟิกสานต่อกลยุทร์ Greener & Smarter ของกลุ่มบ้านปูอย่างต่อเนื่อง นำนวัตกรรมความรู้ความเชี่ยวชาญมาสนับสนุนการพัฒนาและผลิตเรือท่องเที่ยวไฟฟ้า (e-Ferry) ลำแรกของประเทศไทย ในด้านงบประมาณการพัฒนาเรือ และนำโซลูชั่นด้านเทคโนโลยีพลังงานที่หลากหลาย ทั้งด้านฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์มาใช้ในการพัฒนาการผลิต ได้แก่ นำแบตเตอรี่ลิเรียมไอออน (LiB) ศักยภาพสูง ซึ่งถือเป็นชิ้นส่วนสำคัญ เพื่อใช้กับเรือท่องเที่ยวไฟฟ้าโดยเฉพาะ และจัดหาสถานีอัดประจุไฟฟ้าสำหรับเรือไฟฟ้าเหล่านี้ด้วย